แม้ว่าเวลานี้สถานการณ์ COVID-19 จะเริ่มเบาบางลงแล้ว แต่ก็มีบางสถานที่ทำงานยังคงให้ Work From Home กันอยู่ทำให้อินเทอร์เน็ตบ้านยังคงจำเป็นอยู่ แต่การทำงานแต่ห้องนอนอย่างเดียว ก็คงไม่ใช่ที่ๆ เหมาะสม บางครั้งเดินไปรอบบ้านแต่ทำไมสังเกตว่า เน็ตไม่แรงเท่ากับจุดที่เราอยู่ ทำให้ทำงานได้ไม่ราบรื่น หรือแย่ที่สุดคือ คลื่นสัญญาณหายไปเลย และคิดว่าทุกๆคนคงสงสัยกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไรจะได้นำไปปรับตัวและแก้ไขให้เหมาะสมเพื่อให้สัญญาณเน็ตดีขึ้น วันนี้เราจะพาทุกคนมาค้นหาสาเหตุ 5 สิ่งที่ทำให้เน็ตช้ากัน!
1.อุปกรณ์ไม่เคยปิดพักเลย??
การ Restart หรือปิดเครื่อง Router สามารถช่วยล้างข้อมูลแคช (Cache) ที่เก็บไว้ในหน่วยความจำชั่วคราว ซึ่งเป็นข้อมูลที่เครื่องใช้เพื่อเร่งความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ การ Restart จะทำให้เครื่อง Router เริ่มใหม่และล้างข้อมูลแคชที่เก็บไว้ เมื่อเครื่อง Router เริ่มใหม่ จะสร้างแคชใหม่ขึ้นมาเมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลใหม่ ทำให้เครื่อง Router ทำงานได้เร็วยิ่งขึ้น
2.มาตรฐานของ Router ที่ไม่พอดีอุปกรณ์ของคุณ
หากการ Restart Router ไม่ได้ทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้น คุณควรพิจารณาว่า Router ที่คุณใช้เป็นรุ่นเก่าหรือไม่ หากคุณมีอุปกรณ์ใหม่ที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6 หรือ 6E แต่ Router ที่คุณใช้เป็นรุ่นเก่าที่รองรับแค่ Wi-Fi 5 หรือต่ำกว่านั้น อาจทำให้คุณได้รับความเร็วที่ช้ากว่าที่คุณควรจะได้รับ ในกรณีที่การทำงานของคุณต้องการความเร็วสูงกว่านี้ คุณอาจต้องพิจารณาเปลี่ยนอุปกรณ์ Router และสมัครแพ็กเกจที่ให้คุณติดตั้งอุปกรณ์เอง (BYOC) เพื่อให้ได้ความเร็วที่ต้องการได้
3.ใช้งานอยู่ในจุดที่อับสัญญาณ??
เมื่อติดตั้งอินเทอร์เน็ตในบ้านแล้วพบว่าความเร็วไม่เท่ากันเมื่อเดินไปรอบบ้าน สาเหตุอาจเกิดจากสัญญาณที่อุปกรณ์ส่งออกมาไม่ถึงหรือมีจุดอับสัญญาณในบ้านของคุณ ทีมแนะนำให้ใช้โปรแกรมตรวจสอบสัญญาณ Wi-Fi Analyzer ที่สามารถดาวน์โหลดได้บน Android
วิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นทั้งหมด 3 วิธีต่อไปนี้:
- ปรับตำแหน่งและทิศทางของ Router: ลองเลื่อนตำแหน่ง Router ไปยังที่ที่ให้ความเร็วสัญญาณที่ดีที่สุดในบ้านของคุณ และหากเป็นไปได้ให้หันหน้า Router ให้สัญญาณกระจายไปยังทิศทางที่คุณต้องการให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น
- เพิ่มอุปกรณ์เสริม: หากมีจุดอับสัญญาณในบ้าน คุณสามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริมเช่น Wi-Fi Extender หรือ Powerline Adapter เพื่อขยายสัญญาณ Wi-Fi ให้ครอบคลุมทั่วบ้าน โดยวางอุปกรณ์เหล่านี้ใกล้กับจุดที่มีสัญญาณอ่อนหรืออับลง
- ใช้ Mesh Wi-Fi System: Mesh Wi-Fi System เป็นระบบ Wi-Fi ที่ประกอบด้วยหลายจุดเชื่อมต่อกันเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ โดยระบบจะจัดการให้สัญญาณไปยังจุดที่ต้องการโดยอัตโนมัติ และทำให้คุณสามารถเดินทางรอบบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณที่อ่อนหรืออับลง
4.เลือก Package ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
เรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญคือ Package ที่คุณเลือกเหมาะสมกับการใช้งานในบ้านคุณหรือไม่ เช่นถ้าคุณมีคนเล่นเกมอยู่บ้าน 1 คนแต่เลือก Package ธรรมดา อาจจะต้องพิจารณาเลือก Package สำหรับคนเล่นเกม ที่จะแยกอุปกรณ์และช่องสัญญาณออกจากกันเพื่อให้เกิดการความราบรื่น มากขึ้น การทำ Video Call ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่อยากให้เกิดความเร็วที่ช้าวิธีนี้ก็ช่วยคุณได้
5.พื้นที่ติดตั้งของคุณ
การติดตั้งเน็ตบ้านในพื้นที่ที่คุณอาศัยมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีผลต่อความเร็วและประสิทธิภาพในการใช้งานของคุณ คุณควรพิจารณาพื้นที่ติดตั้งและการรองรับของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่คุณเลือก
เทคโนโลยีเช่น VDSL อาจมีความเร็วสูงในสมัยแรก แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีเส้นใยแสงหรือ Fiber ที่มีความเร็วสูงกว่า แต่อาจไม่มีการรับรองรับหรือให้ความเร็วสูงในพื้นที่ของบ้านคุณ
วิธีการแก้ไขในกรณีนี้คือการติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ เพื่อสอบถามว่าพื้นที่ของคุณมีการรองรับและให้ความเร็วสูงได้หรือไม่ หากไม่มีผู้ให้บริการที่มีการรับรองรับหรือให้ความเร็วสูงในพื้นที่ของคุณ คุณสามารถพิจารณาใช้เครือข่ายมือถือเป็นทางเลือกสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในบ้านของคุณ
สำหรับกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในคอนโด คุณควรสอบถามหน่วยงานนิติบุคคลเกี่ยวกับประเภทและความเก่าของสายอินเทอร์เน็ตที่ใช้ หากสายอินเทอร์เน็ตเก่าเกินไปอาจทำให้ความเร็วไม่สูงมากนัก
การจัดการกับเน็ตบ้านที่ช้าอาจมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง คุณควรศึกษาและวิเคราะห์สาเหตุทั้งหมดเพื่อหาคำตอบที่เหมาะสมกับคุณเอง อย่างไรก็ตาม การติดต่อกับผู้ให้บริการเน็ตบ้านและการสอบถามเพิ่มเติมเป็นสิ่งที่คุณควรทำเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ
Credit : (Sanook)