และนี่คือบทความสุดท้ายของคอลเล็อกชั่นซีรีส์ทำความรู้จักกับคีย์บอร์ดmechanical ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้แนะนำคีย์บอร์ดเกมมิ่งให้ทุกคนจากที่ผ่านมาอย่าง " คีย์บอร์ดเกมมิ่ง เชียงใหม่ " หลังจากนั้นเราก็ได้ให้ความรู้เกี่ยวประเภทของคีย์บอร์ดว่าแต่ละประเภทมีอะไรบ้างแบ่งกันยังไง หลังจากนั้นจึงลงเนื้อหาลึกๆสำหรับชาว mechanical keyboard ว่า คีย์บอร์ด มีสวิตช์อะไรบ้าง ซึ่งจากบทความที่แล้ว(สวิตช์คีย์บอร์ด) วันนี้เราก็จะมาเน้นและแนะนำที่คีย์บอร์ดแบบ tactile หรือที่ส่วนใหญ่มักจะรู้จักกันในชื่อ Brown switch
คีย์บอร์ด Brown Switch คืออะไร เป็นยังไงกันนะ
Brown Switch เป็นประเภทของ Mechanical Keyboard Switch ที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะ Tactile โดยมีแรงกดที่สองจังหวะ ทำให้มีความรู้สึกกดที่ตรงกลางระหว่าง Linear และ Clicky Switches ซึ่งหมายถึงการกดปุ่มด้วยแรงที่มีความหนึบแต่ไม่หนักมาก
ปุ่ม Brown มีลักษณะที่คล้ายกับ Clicky Switch ในทางที่มีการกดด้วยน้ำหนักสองจังหวะและให้ความรู้สึกเหมือนกับการกดปุ่ม Clicky แต่ไม่มีเสียงคลิกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ แรงต้านของปุ่ม Brown ไม่มากนักเมื่อเทียบกับ Red Switch ทำให้มีความหนึบเบามาก
การใช้ Brown Switch จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์การกดที่ไม่หนักมาก แต่ยังคงมีความรู้สึกที่สนุกเพลิดเพลิน กล่าวคือเป็นเสมือน Switch ลูกผสมที่ทำให้ผู้ใช้สามารถให้ความสนุกกับการใช้งาน Mechanical Keyboard ได้อย่างลงตัว
หากใครอยากทราบและรู้รายละเอียดเพิ่มเติมที่ลงลึกไปมากกว่านี้สามารถอ่านต่อได้ที่บทความ คีย์บอร์ด มีสวิตช์อะไรบ้าง ได้เลยนะคะ
คุณสมบัติของคีย์บอร์ด brown switch
Brown Switch เป็นประเภทของสวิตช์คีย์บอร์ดแบบสัมผัส (Tactile Switch) มีลักษณะเด่นคือเมื่อกดปุ่มลงไปจะมีแรงต้านเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อกดผ่านจุดสัมผัส (Tactile Bump) ซึ่งจะให้ความรู้สึกสัมผัสที่แตกต่างจากสวิตช์แบบ Linear ที่ไม่มีแรงต้านเพิ่มขึ้นเมื่อกดปุ่มลงไป และแตกต่างจากสวิตช์แบบ Clicky ที่มีเสียงคลิกเมื่อกดปุ่มผ่านจุดสัมผัส
- สัมผัสได้ถึงแรงต้านเล็กน้อยเมื่อกดจนสุด แรงต้านของปุ่ม อยู่ระหว่าง 45-55 กรัม ถือว่าไม่หนักและไม่เบาเกินไป เหมาะสำหรับการพิมพ์งานทั่วไปและเล่นเกม
- ได้ยินเสียงก๊อกเบาๆ เมื่อกดจนสุด แต่เบากว่าสวิตช์แบบ clicky เล็กน้อย
- เหมาะสำหรับการพิมพ์งานทั่วไป และเล่นเกม
- เสียงไม่ดังมากนัก เหมาะสำหรับการใช้งานในที่ทำงาน
ข้อดีและข้อเสียของคีย์บอร์ด brown switch
✔️ข้อดีของคีย์บอร์ด brown switch
- ได้ยินเสียงก๊อกเบาๆ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการกดปุ่ม
- เหมาะสำหรับการพิมพ์งานทั่วไป และเล่นเกม
- เสียงไม่ดังมากนัก เหมาะสำหรับการใช้งานในที่ทำงาน
- ทนทานแข็งแรง
- พิมพ์ได้แม่นยำ
❌ข้อเสียของคีย์บอร์ด brown switch
- แรงต้านของปุ่มอาจไม่เพียงพอสำหรับบางคนที่ต้องการสัมผัสที่หนึบแน่น
- เสียงก๊อกอาจรบกวนผู้อื่นในบางสภาพแวดล้อม
เปรียบเทียบ keyboard brown switch กับ switchอื่นๆ
เราจะนำตารางเปรียบเทียบคร่าวๆมาให้ทุกคนได้ดูกันนะคะ แต่หากใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ คีย์บอร์ด มีสวิตช์อะไรบ้าง ได้เลยน้า
คุณสมบัติ | Brown switch | Blue switch | Red switch |
---|---|---|---|
ประเภท | Tactile | Clicky | Linear |
แรงต้าน | 45 กรัม | 50 กรัม | 45 กรัม |
ระยะการกด | 2.0 มม. | 2.2 มม. | 2.0 มม. |
เสียง | ก๊อกเบา | คลิกดัง | ไม่มีเสียง |
เหมาะกับการใช้งาน | พิมพ์งานทั่วไป เล่นเกม | พิมพ์งานทั่วไป เล่นเกม | เล่นเกม |
ข้อดี | สัมผัสได้ถึงแรงต้านเล็กน้อย เสียงไม่ดังมาก | สัมผัสได้ถึงแรงต้านชัดเจน ได้ยินเสียงคลิก เหมาะสำหรับการพิมพ์งานที่มีเสียง | กดได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับการเล่นเกม |
ข้อเสีย | แรงต้านอาจไม่เพียงพอสำหรับบางคน เสียงอาจรบกวนผู้อื่น | เสียงอาจรบกวนผู้อื่น แรงต้านอาจหนักเกินไปสำหรับบางคน | กดแล้วไม่รู้สึกถึงแรงต้าน เหมาะสำหรับการเล่นเกมเท่านั้น |
เหมาะกับใคร
แน่นอนว่าสาเหตุของใครหลายคนที่ใช้ Mechanical Keyboard ก็เพราะจุดประสงค์ในการใช้งาน ไม่ว่าจะเอาไว้พิมพ์งาน เขียนงานต่าง ๆ หรือแม้แต่การเล่นเกมด้วยก็ตาม ซึ่ง Switch แต่ละประเภทหรือแต่ละสีก็มีทั้งงานที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมกับตัวเองอยู่ แล้วสำหรับ Brown Switch ซึ่งเป็น Tactile ซึ่งเป็นเหมือนลูกผสมของ clicky(blue switch) กับ linear(red switch) แน่นอนว่าเหมาะกับการเล่นเกมแต่หากเป็นเกมที่ต้องใช้ความเร็วอย่างพวกเกม FPS หรือ RPG ที่ต้องมีการบังคับตัวละครอยู่ตลอดเวลาอาจจะเหมาะกับ red switch ที่เป็น linear มากกว่า สำหรับการพิมพ์บอกได้เลยว่ารุ่นนี้เหมาะมากๆด้วยระดับการกดที่มีถึง 2 จังหวะของ Brown Switch บวกเข้ากับแรงต้านการกดไม่เท่ากัน จึงสามารถป้องกันการพิมพ์ผิดพลาด หรือ การพิมพ์เกินในเอกสาร ได้ สำหรับการเขียนโปรแกรมก็เช่นเดียวกันกับการพิมพ์
Logitech Pop Keys
คีย์บอร์ดmechanica brown switch lแบบไร้สาย ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มสีสันและความสนุกสนานให้กับการใช้งานคอมพิวเตอร์ มาพร้อมกับดีไซน์แบบเครื่องพิมพ์ดีดย้อนยุค และปุ่มอิโมจิที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้ถึง 8 ปุ่ม ช่วยให้คุณสามารถแสดงอารมณ์ของคุณได้อย่างอิสระ สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ถึง3เครื่องพร้อมกัน
สเปค
- mechanical keyboard แบบ brown switch
- ขนาด: 321.2 x 138.47 x 35.4 มม.
- น้ำหนัก: 779 กรัม
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1 หรือ USB Logi Bolt 2.4 GHz
- รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์: สูงสุด 3 เครื่อง
- แบตเตอรี่: อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 3 ปี
คุณสมบัติเด่นของ Logitech POP Keys
- ปุ่มอิโมจิที่ถอดเปลี่ยนได้ 8 ปุ่ม ให้คุณเลือกเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ของคุณ
- ปุ่มกดแบบกลไกที่ให้ความรู้สึกตอบสนองและแม่นยำ
- ดีไซน์ลักษณะคล้ายพิมพ์ดีด
- เชื่อมต่อได้ทั้ง 5.1 หรือ USB Logi Bolt 2.4 GHz
- รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 3 เครื่องพร้อมกัน
- ใช้งานได้นานสูงสุด 3 ปี
ข้อดี
- มีสีสันสดใสและสนุกสนาน
- ปุ่มอิโมจิที่ถอดเปลี่ยนได้ ช่วยให้แสดงออกถึงอารมณ์ได้อย่างเต็มที่
- ปุ่มกดแบบกลไกที่ให้ความรู้สึกตอบสนองและแม่นยำ และยังพิมพ์สนุก
- รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 3 เครื่องพร้อมกันเพื่อความสะดวงในการใช้งาน
- พกพาไปข้างนอกได้
- ใช้งานได้นานสูงสุด 3 ปี
ข้อเสีย
- อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบคีย์บอร์ดแบบเดิมๆ
- ปุ่มอิโมจิอาจจะไม่จำเป็นสำหรับทุกคน
- ราคาค่อนข้างสูง สำหรับบางคน
Logitech POP Keys เป็นคีย์บอร์ดแบบไร้สายที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาคีย์บอร์ดที่มีสีสันสดใสและสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับปุ่มอิโมจิที่ถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งช่วยให้คุณแสดงออกถึงอารมณ์ของคุณได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม คีย์บอร์ดรุ่นนี้อาจมีราคาสูงสำหรับบางคน และปุ่มกดแบบกลไกอาจไม่เหมาะกับบางคน
Logitech Gaming Keyboard G413 TKL SE
คีย์บอร์ดที่สร้างความมั่นใจสำหรับเกมที่หนักหน่วง มาพร้อมดีไซน์ TKL ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น ออกแบบเป็นพิเศษระดับดับมือโปร การตอบสนองที่ฉับไวและความทนทานที่เหนือกว่า PBT Keys Cap ที่มีความทนทานที่สุด พร้อมสวิตซ์แบบ Tactile ที่ตอบสนองได้อย่างฉับไว ใช้ไฟแบ็คไลท์สีขาวสว่าง ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษด้วยแสงไฟที่ชัดเจนและแม่นยำรอบๆ ปุ่ม
สเปค
- ประเภทสวิตช์: สัมผัส
- ระยะการกด: 1.9 มม.
- แรงกดในการกด: 50 ก.
- ระยะการเดินทางทั้งหมด: 4 มม.
- ประเภทการเชื่อมต่อ: USB 2.0
- โปรโตคอล USB: USB 2.0
- ความยาว: 355 มม.
- ความกว้าง: 127 มม.
- ความสูง: 36.3 มม.
- น้ำหนัก: 650 ก.
- ความยาวสายเคเบิล: 1.8 ม.
- ปุ่มกด: PBT
- ตัวเรือนด้านบน: อะลูมิเนียมอัลลอยด์เกรดอากาศยาน 5052 คาร์บอนต่ำสีดำแบบขัดเงา
- ไฟส่องสว่าง: ไฟ LED สีขาวด้านหลัง
- ปุ่มสื่อ: มี
- ซอฟต์แวร์: Logitech G HUB
- แพลตฟอร์ม: Windows 10, Windows 11, macOS 10.14 หรือใหม่กว่า
คุณสมบัติเด่นของ Logitech G413 TKL SE ได้แก่:
- สวิตช์สัมผัส: ให้การตอบสนองที่นุ่มนวลและชัดเจนเมื่อกด
- ตัวเรือนด้านบนทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์เกรดอากาศยาน: ทนทานและแข็งแรง
- ปุ่มกด PBT: ทนทานต่อการสึกหรอและมีอายุการใช้งานยาวนาน
- ไฟ LED สีขาวด้านหลัง: ปรับแต่งได้เพื่อความสวยงามและประสิทธิภาพ
- ปุ่มสื่อ: ควบคุมสื่อได้อย่างง่ายดาย
- ซอฟต์แวร์ Logitech G HUB: ปรับแต่งการตั้งค่าและปุ่มต่างๆ ได้อย่างละเอียด
เหมาะสำหรับ
- นักเล่นเกมที่ต้องการคีย์บอร์ดเกมแบบ TKL กะทัดรัดและพกพาสะดวก
- ผู้ที่ชื่นชอบการพิมพ์สัมผัสที่นุ่มนวลและตอบสนองได้ดี
- ผู้ที่มองหาคีย์บอร์ดทนทานต่อการสึกหรอ
ข้อดี
- สวิตช์แบบสัมผัสให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลและตอบสนองได้ดี
- ตัวเครื่องด้านบนแบบอลูมิเนียมอัลลอยคุณภาพสูง ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมและทนทาน
- ปุ่มกด PBT ทนทานต่อการสึกหรอและทำความสะอาดได้ง่าย
- ไฟ LED สีขาวด้านหลังให้ความสวยงามและปรับแต่งได้
ข้อเสีย
- ไม่มีปุ่มลัดสำหรับการควบคุมเสียงและมัลติมีเดีย
- ไม่มีซอฟต์แวร์สำหรับตั้งค่าปุ่มกดและไฟส่องสว่าง
ดังนั้น G413 จึงเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดขนาดกะทัดรัดและพกพาสะดวกพร้อมคุณสมบัติระดับพรีเมียม
Logitech Gaming Keyboard G213
คีย์บอร์ด G213 ยังมีไฟ RGB ปรับแต่งได้ห้าโซนพร้อมสีให้เลือกมากถึง 16.8 ล้านสี คุณสามารถปรับแต่งแสงไฟให้เหมาะกับการตั้งค่าของคุณ เกมที่เฉพาะเจาะจง หรือเพียงแค่แสดงสีที่ชื่นชอบ
สเปค
- ประเภทสวิตช์: Logitech Mech-Dome
- ความสูงสวิตช์: Full height
- ระยะการกดสวิตช์: 4 mm
- แรงกดสวิตช์: 50g
- เสียงสวิตช์: Quiet
- ไฟ RGB: ปรับแต่งได้ห้าโซน
- จำนวนปุ่ม: 104 ปุ่ม
- การเชื่อมต่อ: USB 2.0
- ขนาด: 452 x 218 x 33 มม.
- น้ำหนัก: 1000 กรัม
คุณสมบัติที่สำคัญของ Logitech G213 Prodigy ได้แก่:
- สวิตช์ปุ่ม Tactile Mech-Dome มอบการตอบสนองและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
- กันน้ำหกใส่ ทนทานต่อการหกใส่น้ำหรือเครื่องดื่ม
- แสงไฟ LIGHTSYNC RGB ปรับแต่งได้ ปรับแต่งไฟ RGB ด้วยสีสัน รูปแบบ และเอฟเฟกต์ที่หลากหลาย
- ที่วางพักฝ่ามือและขาตั้งปรับได้ เพื่อความสบายในการเล่นเกม
- ส่วนควบคุมสื่อเฉพาะ ควบคุมเสียงและสื่อของคุณได้อย่างง่ายดาย
ข้อดี
- ราคาไม่แพง
- สวิตช์ปุ่มที่ตอบสนองได้
- ไฟ RGB ปรับแต่งได้
- กันน้ำหกใส่
- ที่วางพักฝ่ามือและขาตั้งปรับได้ในตัว
- ส่วนควบคุมสื่อเฉพาะ
ข้อเสีย
- สวิตช์ปุ่มไม่ใช่กลไกแบบเต็ม
- การออกแบบอาจดูธรรมดาไปหน่อย
โดยสรุปแล้ว logitech G213 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เล่นที่ต้องการคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มีคุณสมบัติที่หลากหลายในราคาประหยัด สวิตช์ปุ่ม Logitech Mech-Dome มอบการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำ ไฟ RGB ปรับแต่งได้ช่วยให้คุณปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ตามต้องการ และคุณสมบัติกันน้ำหกใส่ช่วยให้คีย์บอร์ดของคุณใช้งานได้ยาวนาน
Ducky One 2 Mini RGB
เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งขนาด 60% จากแบรนด์ Ducky ผู้ผลิตเกมมิ่งเกียร์ชื่อดังจากประเทศไต้หวัน โดดเด่นด้วยดีไซน์มินิมอล กะทัดรัด พกพาสะดวก มาพร้อมกับสวิตช์เมคานิคอลคุณภาพสูงให้เลือกหลากหลายรุ่น รองรับไฟ RGB ปรับแต่งได้ตามใจชอบ และมาพร้อมกับ switch ทั้ง3แบบให้เลือกตามใจชอบ
สำหรับ Ducky One 2 คีย์บอร์ดเกมมิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยดีไซน์มินิมอล กะทัดรัด พกพาสะดวก มาพร้อมกับสวิตช์เมคานิคอลคุณภาพสูงให้เลือกหลากหลายรุ่น รองรับไฟ RGB ปรับแต่งได้ตามใจชอบ รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย ใช้งานได้ยาวนาน
สเปค
- ขนาด: 302 x 108 x 40 มม.
- น้ำหนัก: 590 กรัม
- สวิตช์: Cherry MX, Gateron, Kailh
- ไฟ: RGB
- วัสดุ: PBT Double-shot
- การเชื่อมต่อ: USB Type-C
- ขนาด: คีย์บอร์ด Ducky One 2 Mini RGB Mechanical Keyboard มีขนาดเล็กกะทัดรัด มีขนาดเพียง 302 x 108 x 40 มม. ทำให้พกพาสะดวก เหมาะกับผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดเล่นเกมหรือทำงานที่พื้นที่จำกัด
- น้ำหนัก: คีย์บอร์ดมีน้ำหนักเบาเพียง 590 กรัม ทำให้พกพาสะดวกยิ่งขึ้น
- สวิตช์: คีย์บอร์ดมีให้เลือกหลากหลายสวิตช์ สามารถเลือกได้ตามความชอบและความถนัด ประกอบด้วย
- Cherry MX: เป็นสวิตช์เมคานิคอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มาพร้อมกับเสียงคลิกที่ชัดเจน เหมาะสำหรับการเล่นเกมและงานพิมพ์
- Gateron: เป็นสวิตช์เมคานิคอลที่มีคุณภาพดีเยี่ยม มาพร้อมกับเสียงคลิกที่นุ่มนวลกว่า Cherry MX เหมาะสำหรับการพิมพ์
- Kailh: เป็นสวิตช์เมคานิคอลที่ราคาย่อมเยา มาพร้อมกับเสียงคลิกที่นุ่มนวล
- ไฟ: คีย์บอร์ดรองรับไฟ RGB ปรับแต่งได้ตามใจชอบ สามารถสร้างเอฟเฟกต์ไฟได้ตามต้องการ
- วัสดุ: คีย์บอร์ดผลิตจากวัสดุ PBT Double-shot ที่มีความทนทานสูง ตัวอักษรไม่หลุดลอกง่าย
- การเชื่อมต่อ: คีย์บอร์ดเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB Type-C
คุณสมบัติเด่น
- ดีไซน์มินิมอล กะทัดรัด พกพาสะดวก
- สวิตช์เมคานิคอลคุณภาพสูงให้เลือกหลากหลายรุ่น
- รองรับไฟ RGB ปรับแต่งได้ตามใจชอบ
- รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, MacOS, และ Linux
- มีปุ่มลัด FN ใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
- มีปุ่มลัด Esc+Shift+Ctrl สำหรับเปิด Task Manager
ข้อดี
- ดีไซน์มินิมอล กะทัดรัด พกพาสะดวก
- สวิตช์เมคานิคอลคุณภาพสูงให้เลือกหลากหลายรุ่น
- รองรับไฟ RGB ปรับแต่งได้ตามใจชอบ
- รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย
- มีปุ่มลัด FN ใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
- มีปุ่มลัด Esc+Shift+Ctrl สำหรับเปิด Task Manager
ข้อเสีย
- อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดที่มีปุ่มฟีเจอร์ครบถ้วน
- ราคาอาจสูงสำหรับบางคน
โดยรวมแล้ว เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่คุ้มค่ากับราคา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่ดีไซน์มินิมอล กะทัดรัด พกพาสะดวก มาพร้อมกับสวิตช์เมคานิคอลคุณภาพสูง
HyperX Alloy Origins Core
HyperX Alloy Origins Core เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบ tenkeyless ที่มีการออกแบบที่กะทัดรัดและไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งได้ สร้างขึ้นจากอลูมิเนียมที่ทนทานและทนต่อการสึกหรอ คีย์บอร์ดนี้ใช้สวิตช์ HyperX Red แบบสลับเชิงกลที่ให้ความตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำ ไฟ RGB 16.8 ล้านสีสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการโดยใช้ซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY
สเปคของ HyperX Alloy Origins Core มีดังนี้:
- การเชื่อมต่อ: USB Type-C
- สวิตช์: HyperX Red Linear
- ความทนทานของปุ่ม: 80 ล้านครั้ง
- ขนาด: 360 x 132 x 40 มม.
- น้ำหนัก: 730 กรัม
- ไฟ RGB: 16.8 ล้านสี
- ไฟ RGB เสริม: มี
- รองรับการลงทะเบียนคีย์หลายครั้ง: มี
- ตั้งโปรแกรมได้: 8 ฟังก์ชันมาโคร
- ซอฟต์แวร์: HyperX NGENUITY
คุณสมบัติหลักของ HyperX Alloy Origins Core ได้แก่:
- สวิตช์ HyperX Red, Blue, Brown หรือ Aqua ให้เลือก
- ไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งได้
- การออกแบบที่กะทัดรัด
- เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณผ่าน USB Type-C
- สามารถตั้งโปรแกรมได้ 8 ฟังก์ชันมาโคร
- รองรับการลงทะเบียนคีย์หลายครั้ง
ข้อดี
- การออกแบบที่กะทัดรัดและพกพาสะดวก เหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบพกพา
- ไฟ RGB ปรับแต่งได้ ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์ของคีย์บอร์ดได้ตามต้องการ
- สวิตช์ HyperX Red Linear ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและราบรื่น
- รองรับการลงทะเบียนคีย์หลายครั้ง ช่วยให้คุณกดคีย์หลายปุ่มพร้อมกันได้โดยไม่พลาดการป้อนข้อมูล
- สามารถตั้งโปรแกรมได้ 8 ฟังก์ชันมาโคร ช่วยให้คุณสามารถกำหนดคำสั่งที่กำหนดเองให้กับคีย์ต่างๆ ได้
ข้อเสีย
- ไม่มีที่พักข้อมือ อาจไม่สบายสำหรับบางคนที่จะใช้เป็นเวลานาน
- ไม่มีปุ่มมัลติมีเดีย คุณต้องกดปุ่ม FN เพื่อเข้าถึงปุ่มมัลติมีเดีย
- ไม่มีปุ่มล็อก Caps Lock อาจทำให้คุณกด Caps Lock โดยไม่ตั้งใจ
โดยรวมแล้ว HyperX Alloy Origins Core เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มีคุณภาพดี มีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบที่กะทัดรัดและไฟ RGB ปรับแต่งได้ สวิตช์ HyperX Red เชิงเส้นให้การตอบสนองที่รวดเร็วและราบรื่น และรองรับการลงทะเบียนคีย์หลายครั้งและสามารถตั้งโปรแกรมได้ 8 ฟังก์ชันมาโคร อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณา เช่น ไม่มีปุ่ม Numpad และไม่มีที่พักข้อมือ
คำแนะนำในการเลือกซื้อ Mechanical Keyboard
หากคุณมองหา Mechanical Keyboard เพื่อเปลี่ยนจากคีย์บอร์ดปกติ คำแนะนำเลือกซื้อคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด สำหรับ Mechanical Keyboard, สวิตช์เป็นจุดสำคัญที่ต้องพิจารณา มี 4 สีหลักได้แก่:
Red Switch Keyboard: มีการกดแบบจังหวะเดียวที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงคลิกที่จะรบกวนคนรอบข้าง มีการตอบสนองที่รวดเร็วและความคล่องแคล่ว เหมาะสำหรับเกมเมอร์หรือผู้ที่ต้องการประสบการณ์พิมพ์ที่สะดวก
Blue Switch Keyboard: มีการกดแบบ 2 จังหวะ มีแรงต้านมากกว่าคีย์บอร์ดอื่น ๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความแน่นหนักขณะพิมพ์ มีเสียงคลิกที่สัมผัสการกดแบบคลาสสิก เหมาะสำหรับคนที่ชอบทั้งการพิมพ์งานและเล่นเกม
Brown Switch Keyboard: การกดแบบ 2 จังหวะ มีแรงต้านน้อยกว่า Blue Switch และเสียงเงียบคล้ายกับ Red Switch ให้สัมผัสการกดที่มั่นคง เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มใช้ Mechanical Keyboard
Black Switch Keyboard: การกดแบบจังหวะเดียวที่คล้ายกับ Red Switch แต่มีการตอบสนองที่รู้สึกหน่วงเล็กน้อย ไม่มีเสียงคลิกดัง เหมาะสำหรับคนที่เน้นเร็วพิมพ์เร็วในการเล่นเกม
โดยการเลือก Mechanical Keyboard ที่เหมาะสม คุณจะได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ตอบสนองตามความต้องการและสนุกสนานที่สุดในทุกรูปแบบของการใช้งาน
คำแนะนำในการเลือกซื้อคีย์บอร์ด Brown Switch
การเลือกคีย์บอร์ด Brown Switch นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
การใช้งาน คีย์บอร์ด Brown Switch เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกม ผู้ที่พิมพ์งานทั่วไปหรือเล่นเกมที่ต้องใช้ความเร็วเป็นหลัก ก็สามารถเลือกใช้คีย์บอร์ด Brown Switch ได้เช่นกัน
งบประมาณ คีย์บอร์ด Brown Switch มีให้เลือกในหลากหลายราคา ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท เลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่
แบรนด์และรุ่น ในตลาดมีแบรนด์คีย์บอร์ด Brown Switch ให้เลือกมากมาย เช่น Cherry, Kailh, Gateron, Tecware, Glorious เป็นต้น เลือกแบรนด์และรุ่นที่ไว้ใจได้ และมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ
ฟีเจอร์อื่นๆ นอกเหนือจากสวิตช์ Brown Switch แล้ว คีย์บอร์ดยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ให้เลือก เช่น แสงไฟ RGB, ปุ่ม Macro, การเชื่อมต่อแบบไร้สาย เป็นต้น เลือกฟีเจอร์ที่ตรงตามความต้องการ
คำแนะนำในการเลือกคีย์บอร์ด Brown Switch
ทดลองใช้งานก่อนซื้อ หากมีโอกาส แนะนำให้ทดลองใช้งานคีย์บอร์ด Brown Switch รุ่นต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้คีย์บอร์ดที่มีสัมผัสและเสียงที่ตรงใจ
เลือกคีย์บอร์ดที่มีแรงต้านที่เหมาะสม แรงต้านของคีย์บอร์ด Brown Switch อยู่ที่ประมาณ 45 กรัม หากแรงต้านมากเกินไปอาจทำให้กดปุ่มยากเกินไป หากแรงต้านน้อยเกินไปอาจทำให้กดปุ่มได้ไม่แม่นยำ
เลือกคีย์บอร์ดที่มีเสียงรบกวนที่เหมาะสม หากต้องการใช้งานในที่ทำงานที่ไม่ต้องการเสียงรบกวน ให้เลือกคีย์บอร์ด Brown Switch ที่มีเสียงรบกวนต่ำ
ร้าน Neoshop
Neoshop เป็นสุดยอดร้านค้าที่มีทุกอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป ที่นี่คุณจะพบกับหลายประเภทของสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกรูปแบบและไลฟ์สไตล์ของคุณ เป็นส่วนหนึ่งของ A&A Neo Technology, Neoshop มีชื่อเสียงในการบริการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำอาทิ Acer, Asus, Lenovo, Dell, Logitech, Brother, Epson และ Xbox โดยท่านจะได้รับสินค้าแท้ ปลอดภัย และมีคุณภาพทุกครั้ง ที่ Neoshop เราพร้อมให้บริการคุณอย่างทุกรายละเอียดเพื่อให้คุณได้ทำความเข้าใจและเลือกซื้อสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
ร้าน A&A
สำหรับร้าน A&A ก็เป็นร้านส่วนนึงของบริษัท เอ แอนด์ เอ นีโอ เทคโนโลยี พูดง่ายๆคือเป็นร้านในเครือเดียวกันกับ Neoshop ซึ่งก็มีการขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และแล๊ปท็อปเช่นเดียวกัน สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.aaneotech.com สำหรับร้านฝั่งA&A ก็คือเปิดในช่องทางออนไลน์ที่ได้แปะไว้ และ ทางหน้าร้านก็ซื้อได้ที่ Neoshop เลย
คำถามที่พบบ่อย
- Neoshop ตั้งอยู่ที่ไหน
ร้าน Neoshop ตั้งอยู่ที่ 177 อาคาร A5 ถนน ช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200 หรือง่ายๆคือ ข้างๆtops โชตนามอลล์ และโรงแรมเมอเคียวช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ นั่งเองค่ะ!!
- ช่องทางonline Neoshop มีอะไรบ้าง
- Neoshop เปิดทำการกี่โมง
ร้าน Neoshop เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 - 18.00 น. ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คอยู่ ขอแนะนำให้มาที่ร้าน Neoshop เลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นศูนย์รับซ่อมของทางแบรนด์ Asus และ Lenovo โดยตรงอีกด้วย
สรุป
สรุปแล้ว คีย์บอร์ด Brown switch เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสได้ถึงแรงต้านเล็กน้อยและได้ยินเสียงก๊อกเบาๆ โดยไม่รบกวนผู้อื่น คีย์บอร์ด Blue switch เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสได้ถึงแรงต้านชัดเจนและได้ยินเสียงคลิก เหมาะสำหรับการพิมพ์งานที่มีเสียง คีย์บอร์ด Red switch เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกดปุ่มได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับการเล่นเกม