สาระน่าสนใจ

คีย์บอร์ด red switch แนะนำประจำปี2023 รุ่นไหนน่าใช้ มาดูกันเลย!

red switch

สวัสดีทุกคนเลยนะคะ วันนี้เราก็กลับมาอีกครั้งหลังเราได้เริ่มจากการที่แนะนำคีย์บอร์ดเกมมิ่งให้ทุกคนจากที่ผ่านมาอย่าง " คีย์บอร์ดเกมมิ่ง เชียงใหม่ " หลังจากนั้นเราก็ได้ให้ความรู้เกี่ยวประเภทของคีย์บอร์ดว่าแต่ละประเภทมีอะไรบ้างแบ่งกันยังไง หลังจากนั้นจึงลงเนื้อหาลึกๆสำหรับชาว mechanical keyboard ว่า คีย์บอร์ด มีสวิตช์อะไรบ้าง ซึ่งจากบทความที่แล้ว(สวิตช์คีย์บอร์ด) วันนี้เราก็จะมาเน้นและแนะนำที่คีย์บอร์ดแบบ Linear หรือที่ส่วนใหญ่จะเรียกกันง่ายๆว่าคีย์บอร์ด red switch

คีย์บอร์ด red switch คืออะไร มาทำความรู้จักกันเถอะ

คีย์บอร์ด red switch

หลายๆคนคงรู้จักกับคีย์บอร์ดเกมมิ่งโดยเฉพาะ Mechanical Keyboard กันอยู่บ้างแล้วใช่ไหมคะ ยิ่งในวงการเกมเมอร์น่าจะยิ่งรู้จัก เพราะคีย์บอร์ดพวกนี้ถือเป็นที่ฮอตฮิตและเป็นที่ยอดนิยมในหมู่ชาวเกมเมอร์รวมถึงหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับ Red Switchนั้น โดยทั่วไปแล้วจะมีจุดเด่นจากในตระกุลพวก Switch คือ แน่นแนค่ะว่าทุกรุ่นของ mechanical มีการตอบสนองที่รวดเร็วเหมาะกับการพิมพ์และการเล่นเกมเป็นอย่างมาก ตัวนี้จะมีน้ำหนักการกดที่เบา และเสียงค่อนข้างเบาถึงเงียบเลยทีเดียว สำหรับคีย์บอร์ด Red Switch นั้นใช้สวิตช์แบบ Linear นะคะ และสำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลและสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลงลึกไปมากกว่านี้เราก็ได้มีบทความทั้รวบรวมสวิตช์ของ mechanical keyboard ด้วยนะคะสามารถอ่านต่อได้ที่บทความ คีย์บอร์ด มีสวิตช์อะไรบ้าง ได้เลยนะคะ

คุณสมบัติของคีย์บอร์ด red switch

คีย์บอร์ด Red Switch เป็นคีย์บอร์ดประเภท Linear Switch ซึ่งมีแรงกดเท่ากันตลอดช่วงการกดปุ่ม มีลักษณะการกดที่ราบเรียบและต่อเนื่อง เสียงเงียบกว่าคีย์บอร์ดประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับการพิมพ์งานและเล่นเกมทั่วไป

คุณสมบัติของคีย์บอร์ด Red Switch มีดังนี้

  • ประเภท: Linear Switch
  • แรงกด: 45 cN
  • เสียง: เงียบ
  • การตอบสนอง: รวดเร็ว

คีย์บอร์ด Red Switch เป็นคีย์บอร์ดประเภท Linear Switch ซึ่งมีแรงกดเท่ากันตลอดช่วงการกดปุ่ม มีลักษณะการกดที่ราบเรียบและต่อเนื่อง เสียงเงียบกว่าคีย์บอร์ดประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับการพิมพ์งานและเล่นเกมทั่วไป

คุณสมบัติของคีย์บอร์ด Red Switch มีดังนี้

  • ประเภท: Linear Switch
  • แรงกด: 45 cN
  • เสียง: เงียบ
  • การตอบสนอง: รวดเร็ว

แรงกด

แรงกดของคีย์บอร์ด Red Switch อยู่ที่ประมาณ 45 cN ซึ่งถือว่าเบามากเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดประเภทอื่นๆ ทำให้เหมาะสำหรับคนที่มีนิ้วเบาหรือคนที่ชอบกดปุ่มเบาๆ นอกจากนี้ยังเหมาะกับการใช้เล่นเกมที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว เพราะการกดปุ่มเพียงครั้งเดียวก็สามารถกดปุ่มได้สำเร็จแล้ว

เสียง

คีย์บอร์ด Red Switch มีเสียงเงียบกว่าคีย์บอร์ดประเภทอื่นๆ เช่น Blue Switch หรือ Brown Switch ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในที่เงียบ เช่น ออฟฟิศหรือห้องนอน

การตอบสนอง

คีย์บอร์ด Red Switch ให้การตอบสนองที่รวดเร็ว เพราะแรงกดต่ำและมีการสัมผัสที่ราบเรียบ ทำให้สามารถกดปุ่มได้ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว

จุดเด่นของคีย์บอร์ด red switch

จุดเด่นของคีย์บอร์ด Red Switch มีดังนี้:

  • แรงต้านต่ำ: Red Switch มีแรงต้านต่ำที่สุดของสวิตช์คีย์บอร์ดแบบ Linear ทั้งหมด สิ่งนี้ทำให้เหมาะสำหรับการพิมพ์สัมผัสหรือเล่นเกมที่ต้องกดปุ่มอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
  • เสียงเบา: Red Switch ให้เสียงที่เบาที่สุดของสวิตช์คีย์บอร์ดแบบ Linear ทั้งหมด สิ่งนี้ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในที่เงียบหรือในสภาพแวดล้อมที่ผู้คนจำนวนมากอยู่รอบๆ
  • อายุการใช้งานยาวนาน: Red Switch มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 50 ล้านครั้ง หมายความว่าสามารถใช้งานได้หลายปีโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความเสียหาย

จุดเด่นเหล่านี้ทำให้คีย์บอร์ด Red Switch เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การพิมพ์สัมผัส เล่นเกม และงานสร้างสรรค์ต่างๆ พวกมันให้ความรู้สึกที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ดี และเสียงที่เบา ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในที่เงียบหรือในสภาพแวดล้อมที่ผู้คนจำนวนมากอยู่รอบๆ

  • แรงต้านต่ำ: แรงต้านต่ำของ Red Switch ทำให้การพิมพ์สัมผัสเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารหรืออีเมลจำนวนมาก หรือเล่นเกมที่ต้องกดปุ่มอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เช่น FPS หรือ MOBA
  • เสียงเบา: มีเสียงที่เบาทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในที่เงียบ เช่น สำนักงานหรือห้องนอน โดยไม่รบกวนผู้อื่น
  • อายุการใช้งานยาวนาน: อายุการใช้งานยาวนานทำให้คุ้มค่ากับการลงทุน คุณสามารถใช้งานได้หลายปีโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความเสียหาย
  • การพิมพ์สัมผัส: ให้การพิมพ์สัมผัสที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพิมพ์สัมผัสที่รวดเร็วและแม่นยำ
  • การเล่นเกม: พบกับความรู้สึกที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ดี เหมาะสำหรับเกมที่ต้องกดปุ่มอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
  • งานสร้างสรรค์: ส่งมอบการพิมพ์สัมผัสที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ดี เหมาะสำหรับงานสร้างสรรค์ต่างๆ เช่น การเขียนโค้ด การเขียนโปรแกรม หรือการออกแบบกราฟิก

ข้อดีและข้อควรระวังของคีย์บอร์ด red switch 

✔️ข้อดี

  • แรงกดเบา เหมาะสำหรับคนที่มีนิ้วเบาหรือคนที่ชอบกดปุ่มเบาๆ
  • เสียงเงียบกว่าคีย์บอร์ดประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในที่เงียบ
  • การตอบสนองที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว

❌ข้อเสีย

  • าจจะยากต่อการพิมพ์สัมผัสสำหรับมือใหม่ เพราะการกดปุ่มเพียงครั้งเดียวก็สามารถกดปุ่มได้สำเร็จแล้ว
  • อาจจะไม่เหมาะกับการพิมพ์งานที่ต้องการการกดปุ่มแบบสัมผัส เพราะอาจจะทำให้กดปุ่มพลาดได้

ข้อแตกต่างระหว่าง keyboard red switch กับ switch มีอะไรบ้างนะ

เราจะนำตารางเปรียบเทียบคร่าวๆมาให้ทุกคนได้ดูกันนะคะ แต่หากใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ คีย์บอร์ด มีสวิตช์อะไรบ้าง ได้เลยน้า

คุณสมบัติRed switchBlue switchBrown switch
ประเภทLinearClickyTactile
เสียงไม่มีเสียง-เบามีเสียงคลิก ดังชัดเจนมีแรงหน่วง ดังปานกลาง-เบา
แรงกดต่ำสุดสูงสุดกลาง
ระยะการกด2.0 มม.2.2 มม.2.0 มม.
การใช้งานเกม, พิมพ์งานความเร็วสูงพิมพ์งาน, เล่นเกมพิมพ์งาน, เล่นเกม

เหมาะกับใคร

คีย์บอร์ด Red Switch เหมาะสำหรับผู้ที่มีนิ้วเบาหรือชอบกดปุ่มเบาๆ เพื่อความสะดวกและการใช้งานที่ราบรื่น สำหรับคนที่ต้องการคีย์บอร์ดที่มีเสียงเงียบและแรงกดน้อย พิมพ์ได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เฉพาะกลุ่มผู้ที่เล่นเกมที่ต้องการความตอบสนองที่รวดเร็ว แบบ Red Switch เหมาะสำหรับเกม FPS , MOBA หรือ RTS ด้วยแรงกดน้อยและความรวดเร็วในการกดปุ่ม นอกจากนี้ Red Switch ยังมีเสียงเงียบที่เหมาะสำหรับใช้งานในสถานที่เงียบ เช่น ออฟฟิศหรือห้องนอน
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ชอบพิมพ์สัมผัส Red Switch อาจไม่เหมาะเนื่องจากการกดปุ่มครั้งเดียวก็สามารถทำได้และอาจทำให้ยากต่อการพิมพ์สัมผัส และไม่ควรนำไปใช้ในงานที่ต้องการการกดปุ่มแบบสัมผัส

คีย์บอร์ด red switch แนะนำ รุ่นไหนต้องมี

ใบบทความนี้เราจะแนะนำคีย์บอร์ด red switch ดังนี้

  • Razer™ Huntsman V2 - Optical Gaming Keyboard
  • Razer DeathStalker V2 Pro - Wireless Low Profile Optical Gaming Keyboard
  • ASUS ROG STRIX FLARE II ANIMATE NX
    XA09-STRIX-SCOPE-NX-WL
  • Logitech G512 Carbon
  • CHERRY MX 2.0S
  • Keychron K2 V2 Wireless Hotswap Mechanical Keyboard
  • และอื่นๆ

Razer™ Huntsman V2 - Optical Gaming Keyboard

คีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบ Tenkeyless Optical   การตอบสนองที่เหนือชั้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พบกับ Razer Huntsman V2 TKL—คีย์บอร์ดเกมออปติคัลแบบไม่มีปุ่ม 10 ปุ่มพร้อมเสียงที่ปรับปรุงใหม่ เวลาแฝงอินพุตใกล้ศูนย์ และคุณสมบัติระดับไฮเอนด์อื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีฟอร์มแฟคเตอร์ขนาดกะทัดรัดที่เหมาะสำหรับประสิทธิภาพเต็มขนาด

Razer™ Huntsman V2 เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบออปติคัลที่มีค่าหน่วงเวลาในการตอบสนองที่ต่ำมาก เพียง 0.2 มิลลิวินาที ช่วยให้ผู้เล่นสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น มาพร้อมคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมายที่เหมาะสำหรับเกมเมอร์ ได้แก่

  • Razer™ HyperPolling Technology อัตราการสุ่มตัวอย่างสูงถึง 8,000 Hz ทำให้คีย์บอร์ดสามารถรับอินพุตได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
  • Fully programmable keys with on-the-fly macro recording คีย์บอร์ดสามารถตั้งค่าปุ่มต่างๆ ได้เองตามต้องการ รวมถึงบันทึกมาโครได้ทันที
  • N-key roll-over with anti-ghosting รองรับการกดปุ่มพร้อมกันได้สูงสุด 104 ปุ่มโดยไม่เกิดการชนกัน

Razer Huntsman V2 มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Full Size และรุ่น Tenkeyless วัสดุที่ใช้ทำคีย์บอร์ดเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ แข็งแรงทนทาน ทนต่อการสึกหรอได้ดี ปุ่มคีย์บอร์ดเป็นแบบ Razer™ Optical Switches Gen-2 เป็นแบบ Linear Switch ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและตอบสนองได้ดี

สเปคของ Razer Huntsman V2 มีดังนี้

  • ขนาด: 445 x 135 x 40 มม.
  • น้ำหนัก: 1.02 กก.
  • จำนวนปุ่ม: 108 ปุ่ม (สำหรับรุ่น Full Size) หรือ 68 ปุ่ม (สำหรับรุ่น TKL)
  • ปุ่มสวิตช์: Razer™ Optical Switches Gen-2 แบบ Linear
  • อัตราการสุ่มตัวอย่าง: 8,000 Hz
  • **รองรับ Razer Chroma RGB

รายละเอียดเพิ่มเติมของ Razer Huntsman V2 มีดังนี้

  • ปุ่มสวิตช์ Razer™ Optical Switches Gen-2 แบบ Linear
    • อัตราการตอบสนอง: 0.2 มิลลิวินาที
    • แรงกด: 45 cN
    • ระยะกด: 1.2 มิลลิเมตร
  • อัตราการสุ่มตัวอย่าง: 8,000 Hz
    • ช่วยให้มั่นใจได้ว่าปุ่มกดของคุณจะถูกบันทึกโดยทันที โดยไม่มีอาการหน่วงหรือค้าง
  • แผ่นกันเสียงภายในที่ช่วยดูดซับเสียงรบกวน
    • ทำให้เสียงการกดปุ่มเงียบลง
  • ปุ่มคีย์แคปแบบ Doubleshot ABS ที่ทนทาน
    • ทนต่อการเสียดสีและรอยขีดข่วนได้ดี
  • รองรับ Razer Chroma RGB
    • ปรับแต่งไฟ RGB ได้ตามต้องการ

คุณสมบัติเด่น

  • การออกแบบที่บางเฉียบ: ด้วยขนาดเพียง 15.4 มม. ทำให้ DeathStalker V2 Pro เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งไร้สายที่บางที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด
  • สวิตช์ออปติคัลแบบ Low Profile: สวิตช์ออปติคัลแบบ Low Profile ของ Razer ให้การกดแป้นที่รวดเร็วทันใจและรู้สึกพึงพอใจด้วยระยะการเดินทางที่น้อยที่สุด
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน: ด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 200 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (หากปิดไฟ) DeathStalker V2 Pro สามารถใช้งานได้ยาวนานแม้ในช่วงการเล่นเกมที่ยาวนานที่สุด
  • การเชื่อมต่อไร้สายประสิทธิภาพสูง: เทคโนโลยี Razer HyperSpeed Wireless มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ไร้การหน่วงเวลาด้วยการเชื่อมต่อที่มั่นคงและเชื่อถือได้
  • การเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์: เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 3 เครื่องพร้อมกันและสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่นโดยใช้ Razer HyperSpeed Multi-device Dongle ที่ให้มา
  • ไฟ RGB ปรับแต่งได้: ปรับแต่งคีย์บอร์ดของคุณด้วยสี 16.8 ล้านสีและเอฟเฟกต์แสงที่หลากหลายโดยใช้ซอฟต์แวร์ Razer Synapse 3
  • โครงสร้างที่ทนทาน: DeathStalker V2 Pro สร้างขึ้นด้วยแผ่นด้านบนอะลูมิเนียมที่ทนทานเพื่อความทนทานที่ยาวนาน

นอกจากนี้ Razer Huntsman V2 ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น

  • รองรับ N-key rollover กดปุ่มพร้อมกันได้หลายปุ่มโดยไม่เกิดปัญหาการกดปุ่มไม่ครบหรือค้าง
  • มีปุ่มมัลติมีเดียในตัว สะดวกในการปรับแต่งเสียงหรือเปิดปิดสื่อต่างๆ
  • มีซอฟต์แวร์ Razer Synapse 3 รองรับ ปรับแต่งปุ่มลัดและไฟ RGB ได้ละเอียดยิ่งขึ้น

Razer Huntsman V2 เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำเป็นพิเศษ การออกแบบที่กะทัดรัดและทันสมัยก็ช่วยให้สะดวกในการพกพาอีกด้วย

✔️ข้อดีของ Razer Huntsman V2

  • อัตราการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำเป็นพิเศษ ด้วยปุ่มสวิตช์ Razer™ Optical Switches Gen-2 แบบ Linear ที่ให้อัตราการตอบสนองอยู่ที่ 0.2 มิลลิวินาที ซึ่งเร็วกว่าคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบทั่วไปถึง 3 เท่า ช่วยให้มั่นใจได้ว่าปุ่มกดของคุณจะถูกบันทึกโดยทันที โดยไม่มีอาการหน่วงหรือค้าง
  • แผ่นกันเสียงภายในที่ช่วยดูดซับเสียงรบกวน ทำให้เสียงการกดปุ่มเงียบลง เหมาะสำหรับการใช้งานในที่สาธารณะหรือเวลาเล่นเกมที่ต้องการความเงียบ
  • ปุ่มคีย์แคปแบบ Doubleshot ABS ที่ทนทาน ทนต่อการเสียดสีและรอยขีดข่วนได้ดี
  • รองรับ Razer Chroma RGB ปรับแต่งไฟ RGB ได้ตามต้องการ

ข้อเสียของ Razer Huntsman V2

  • ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดเกมมิ่งทั่วไป
  • ปุ่มสวิตช์ Razer™ Optical Switches Gen-2 แบบ Linear อาจเป็นที่นิยมไม่เท่าปุ่มสวิตช์แบบอื่น เช่น Cherry MX Blue หรือ Cherry MX Brown

Razer Huntsman V2 เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มีจุดเด่นอยู่ที่อัตราการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มีอัตราการตอบสนองที่สูงที่สุด การออกแบบที่กะทัดรัดและทันสมัยก็ช่วยให้สะดวกในการพกพาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ราคาของ Razer Huntsman V2 ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดเกมมิ่งทั่วไป

Razer DeathStalker V2 Pro

สำหรับ Razer DeathStalker V2 Pro เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกมเมอร์ที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดเกมมิ่งไร้สายประสิทธิภาพสูงที่มีการออกแบบที่บางและพกพาสะดวก สวิตช์ออปติคัลแบบ Low Profile ให้การกดแป้นที่รวดเร็วและตอบสนอง และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานหมายความว่าคุณสามารถเล่นเกมได้หลายชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จใหม่ เทคโนโลยี HyperSpeed Wireless มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ไร้การหน่วงเวลา และการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ทำให้ง่ายต่อการสลับไปมาระหว่างคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม คีย์บอร์ดมีราคาแพง และไม่ได้เอื้อต่อสรีระเหมือนคีย์บอร์ดบางรุ่น

สเปค

  • ประเภทสวิตช์: Razer Low-Profile Optical Switches
  • แรงกดของสวิตช์: 45g
  • จุดกดของสวิตช์: 1.2 มม.
  • ระยะการเดินทางของปุ่ม: 1.5 มม.
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่: สูงสุด 200 ชั่วโมง (หากปิดไฟ)
  • เทคโนโลยีไร้สาย: Razer HyperSpeed Wireless
  • การเชื่อมต่อ: USB-C, Bluetooth 5.0
  • น้ำหนัก: 457 กรัม
  • ขนาด: 434 มม. x 127 มม. x 15.4 มม.

คุณสมบัติที่สำคัญ:

  • การออกแบบที่บางเฉียบ: ด้วยขนาดเพียง 15.4 มม. ทำให้ DeathStalker V2 Pro เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งไร้สายที่บางที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด
  • สวิตช์ออปติคัลแบบ Low Profile: สวิตช์ออปติคัลแบบ Low Profile ของ Razer ให้การกดแป้นที่รวดเร็วทันใจและรู้สึกพึงพอใจด้วยระยะการเดินทางที่น้อยที่สุด
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน: ด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 200 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (หากปิดไฟ) DeathStalker V2 Pro สามารถใช้งานได้ยาวนานแม้ในช่วงการเล่นเกมที่ยาวนานที่สุด
  • การเชื่อมต่อไร้สายประสิทธิภาพสูง: เทคโนโลยี Razer HyperSpeed Wireless มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ไร้การหน่วงเวลาด้วยการเชื่อมต่อที่มั่นคงและเชื่อถือได้
  • การเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์: เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 3 เครื่องพร้อมกันและสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่นโดยใช้ Razer HyperSpeed Multi-device Dongle ที่ให้มา
  • ไฟ RGB ปรับแต่งได้: ปรับแต่งคีย์บอร์ดของคุณด้วยสี 16.8 ล้านสีและเอฟเฟกต์แสงที่หลากหลายโดยใช้ซอฟต์แวร์ Razer Synapse 3
  • โครงสร้างที่ทนทาน: DeathStalker V2 Pro สร้างขึ้นด้วยแผ่นด้านบนอะลูมิเนียมที่ทนทานเพื่อความทนทานที่ยาวนาน

ข้อดี:

  • การออกแบบที่บางและน้ำหนักเบา
  • สวิตช์ออปติคัลแบบ Low Profile ให้การกดแป้นที่รวดเร็วและตอบสนอง
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
  • การเชื่อมต่อไร้สายประสิทธิภาพสูง
  • การเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์
  • ไฟ RGB ปรับแต่งได้
  • โครงสร้างที่ทนทาน

ข้อเสีย:

  • ราคาแพง
  • ไม่เอื้อต่อสรีระเหมือนคีย์บอร์ดบางรุ่น
  • ไม่มีปุ่มสื่อเฉพาะ

ASUS ROG STRIX FLARE II ANIMATE NX XA09-STRIX-SCOPE-NX-WL

ROG Strix Flare II Animate เป็นคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมที่สุดยอดในการจุดไฟเกมของคุณ เต็มไปด้วยนวัตกรรมมากมาย รวมถึงจอแสดงผล LED AniMe Matrix™ ที่ปรับแต่งได้ สวิตช์เชิงกล ROG NX หรือ Cherry MX แบบถอดเปลี่ยนได้ ปุ่มกดคู่ PBT โฟมลดเสียง อัตราการโพล 8000 Hz เวลาตอบสนอง 0.125 ms การควบคุมสื่อเฉพาะและ ที่พักข้อมือพร้อมตัวกระจายแสง

สเปค ASUS ROG STRIX FLARE II ANIMATE NX XA09-STRIX-SCOPE-NX-WL

  • ขนาด: 100% (Full-size)
  • สวิตช์: ROG NX Red, ROG NX Brown, ROG NX Blue, Cherry MX Red, Cherry MX Brown, Cherry MX Blue
  • ปุ่มกด: PBT
  • ไฟ RGB: AURA Sync
  • อัตราการโพล: 8000 Hz
  • เวลาตอบสนอง: 0.125 ms
  • คุณสมบัติอื่นๆ:
    • จอแสดงผล LED AniMe Matrix™ ที่ปรับแต่งได้
    • โฟมลดเสียง
    • ที่พักข้อมือพร้อมตัวกระจายแสง
    • การควบคุมสื่อเฉพาะ
    • USB Pass-through

รายละเอียดเพิ่มเติม

  • จอแสดงผล LED AniMe Matrix™ ที่ปรับแต่งได้: จอแสดงผล LED 16 x 16 พิกเซลที่ให้คุณแสดงข้อความ รูปภาพ หรืออนิเมชั่นที่กำหนดเองได้ คุณสามารถปรับแต่งการแสดงผลด้วยแอป Aura Creator ของ ASUS
  • สวิตช์เชิงกล ROG NX หรือ Cherry MX แบบถอดเปลี่ยนได้: เลือกจากสวิตช์เชิงกล ROG NX ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ASUS หรือ Cherry MX คุณภาพสูง สวิตช์ ROG NX มีให้เลือกสามประเภท: Red, Brown และ Blue
  • ปุ่มกดคู่ PBT: ปุ่มกด PBT ที่ทนทานพร้อมปุ่มกด PBT แบบคู่สำหรับสัมผัสที่นุ่มนวลและทนทาน
  • โฟมลดเสียง: โฟมลดเสียงช่วยลดเสียงรบกวนจากการพิมพ์
  • อัตราการโพล 8000 Hz: อัตราการโพลที่รวดเร็วช่วยให้มั่นใจได้ว่าคีย์บอร์ดของคุณจะตอบสนองต่อคำสั่งของคุณทันที
  • เวลาตอบสนอง 0.125 ms: เวลาตอบสนองที่รวดเร็วช่วยให้คุณเล่นเกมด้วยความเร็วสูง
  • การควบคุมสื่อเฉพาะ: ปุ่มควบคุมสื่อเฉพาะช่วยให้คุณควบคุมเพลงและเสียงอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
  • ที่พักข้อมือพร้อมตัวกระจายแสง: ที่พักข้อมือแบบถอดได้พร้อมตัวกระจายแสงช่วยเพิ่มการรองรับและสไตล์ให้กับการตั้งค่าของคุณ
  • USB Pass-through: พอร์ต USB ในตัวช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

คุณสมบัติที่โดดเด่นของ ASUS ROG STRIX FLARE II ANIMATE NX XA09-STRIX-SCOPE-NX-WL มีดังนี้:

  • จอแสดงผล LED AniMe Matrix™ ที่ปรับแต่งได้: จอแสดงผล LED 16 x 16 พิกเซลที่ให้คุณแสดงข้อความ รูปภาพ หรืออนิเมชั่นที่กำหนดเองได้
  • สวิตช์เชิงกล ROG NX หรือ Cherry MX แบบถอดเปลี่ยนได้: เลือกจากสวิตช์เชิงกล ROG NX ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ASUS หรือ Cherry MX คุณภาพสูง
  • ปุ่มกดคู่ PBT: ปุ่มกด PBT ที่ทนทานพร้อมปุ่มกด PBT แบบคู่สำหรับสัมผัสที่นุ่มนวลและทนทาน
  • โฟมลดเสียง: โฟมลดเสียงช่วยลดเสียงรบกวนจากการพิมพ์
  • อัตราการโพล 8000 Hz: อัตราการโพลที่รวดเร็วช่วยให้มั่นใจได้ว่าคีย์บอร์ดของคุณจะตอบสนองต่อคำสั่งของคุณทันที
  • เวลาตอบสนอง 0.125 ms: เวลาตอบสนองที่รวดเร็วช่วยให้คุณเล่นเกมด้วยความเร็วสูง
  • การควบคุมสื่อเฉพาะ: ปุ่มควบคุมสื่อเฉพาะช่วยให้คุณควบคุมเพลงและเสียงอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
  • ที่พักข้อมือพร้อมตัวกระจายแสง: ที่พักข้อมือแบบถอดได้พร้อมตัวกระจายแสงช่วยเพิ่มการรองรับและสไตล์ให้กับการตั้งค่าของคุณ

ข้อดี

  • จอแสดงผล LED AniMe Matrix™ ที่ปรับแต่งได้: เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของคีย์บอร์ดรุ่นนี้ ช่วยให้คุณสามารถแสดงข้อความ รูปภาพ หรืออนิเมชั่นที่กำหนดเองได้ ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดของคุณให้เข้ากับสไตล์ของคุณ
  • สวิตช์เชิงกล ROG NX หรือ Cherry MX แบบถอดเปลี่ยนได้: ให้คุณเลือกสวิตช์เชิงกลที่เหมาะกับสไตล์การเล่นเกมของคุณ สวิตช์ ROG NX มีให้เลือกสามประเภท: Red, Brown และ Blue
  • ปุ่มกดคู่ PBT: ปุ่มกด PBT ที่ทนทานพร้อมปุ่มกด PBT แบบคู่สำหรับสัมผัสที่นุ่มนวลและทนทาน
  • โฟมลดเสียง: ช่วยช่วยลดเสียงรบกวนจากการพิมพ์
  • อัตราการโพล 8000 Hz: ช่วยให้มั่นใจได้ว่าคีย์บอร์ดของคุณจะตอบสนองต่อคำสั่งของคุณทันที
  • เวลาตอบสนอง 0.125 ms: ช่วยให้คุณเล่นเกมด้วยความเร็วสูง
  • การควบคุมสื่อเฉพาะ: ปุ่มควบคุมสื่อเฉพาะช่วยให้คุณควบคุมเพลงและเสียงอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
  • ที่พักข้อมือพร้อมตัวกระจายแสง: ช่วยเพิ่มการรองรับและสไตล์ให้กับการตั้งค่าของคุณ
  • USB Pass-through: พอร์ต USB ในตัวช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

ข้อเสีย

  • ราคาค่อนข้างสูง
  • น้ำหนักค่อนข้างมาก
  • จอแสดงผล LED AniMe Matrix™ อาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าคีย์บอร์ดที่ไม่มีจอแสดงผล

ASUS ROG STRIX FLARE II ANIMATE NX XA09-STRIX-SCOPE-NX-WL เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มีคุณสมบัติมากมายที่จะยกระดับการเล่นเกมของคุณ จอแสดงผล LED AniMe Matrix™ ที่ปรับแต่งได้ สวิตช์เชิงกลที่เชื่อถือได้ และคุณสมบัติอื่นๆ มากมาย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดที่ดีที่สุด

Logitech G512 Carbon

เกมมิ่งคีย์บอร์ดหน้าตาเรียบง่ายที่ใช้ทำงานได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งคีย์บอร์ดนี้เป็นแบบ Full-size พร้อมไฟ RGB เลือกสวิตช์ได้ 3 แบบ คือ GX Blue (Clicky), GX Brown (Tactile), GX Red (Linear) ก็ได้ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB มีช่อง USB Passthrough เอาไว้ต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะ USB 2.4GHz “LIGHTSPEED” ของเกมมิ่งเกียร์ Logitech หรือ External Harddisk เพื่อโอนไฟล์ก็ได้ แถมยังมี Function Key ติดตั้งมาให้ที่ปุ่ม F5~F12 และสลับเข้า Game Mode ได้โดยกด Fn+F8 และตั้งค่าในโปรแกรม Logitech G Hub เพื่อเซ็ตคำสั่งทำงานหรือคีย์ลัดเรียกใช้สกิลตอนเล่นเกมก็ได้ ส่วนระบบปฏิบัติการแนะนำให้ใช้กับ Windows จะดีที่สุด ในแง่การใช้งาน ต้องถือว่า G512 Carbon เป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดที่ดีรอบด้านทำงานก็ได้เล่นเกมก็ดีและราคาก็เป็นมิตรกับกระเป๋าเงินอีกด้วย

สเปค Logitech G512 Carbon

  • ประเภท: คีย์บอร์ดเกมมิ่งเชิงกล
  • สวิตช์: Logitech GX Blue, GX Red Linear, GX Brown Tactile
  • ขนาด: 290 x 445 x 35.5 มม.
  • น้ำหนัก: 1.13 กิโลกรัม
  • ความยาวสาย: 1.8 เมตร
  • ไฟ RGB: 16.8 ล้านสี
  • วัสดุ: อะลูมิเนียมเกรดอากาศยาน
  • พอร์ต USB: USB Passthrough

คุณสมบัติเด่น

  • มีให้เลือก 3 สวิตช์ที่แตกต่างกัน: GX Blue, GX Red Linear, GX Brown Tactile
  • ไฟ RGB 16.8 ล้านสีที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่
  • ทำจากอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานเพื่อความทนทาน
  • มีพอร์ต USB Passthrough ในตัว

รายละเอียดเพิ่มเติม

  • สวิตช์ GX Blue: ให้เสียงคลิกที่ชัดเจนและสัมผัสที่ตอบสนอง
  • สวิตช์ GX Red Linear: ให้การกดที่ราบรื่นและแม่นยำ
  • สวิตช์ GX Brown Tactile: ให้การกดที่ตอบสนองพร้อมการตอบสนองที่สัมผัสได้

ข้อดีของ Logitech G512 Carbon

  • มีให้เลือก 3 สวิตช์ที่แตกต่างกัน: ช่วยให้คุณสามารถเลือกสวิตช์ที่เหมาะกับสไตล์การเล่นเกมของคุณได้
  • ไฟ RGB 16.8 ล้านสี: ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดของคุณให้เข้ากับสไตล์ของคุณได้
  • ทำจากอะลูมิเนียมเกรดอากาศยาน: เพื่อความทนทาน
  • มีพอร์ต USB Passthrough ในตัว: ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นได้ เช่น เมาส์หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล

ข้อเสียของ Logitech G512 Carbon

  • ไม่มีที่พักข้อมือ: อาจไม่สบายสำหรับผู้ที่พิมพ์หรือเล่นเกมเป็นเวลานาน
  • ไม่มีปุ่มลัดสำหรับมัลติมีเดีย: อาจต้องกดปุ่มหลายปุ่มพร้อมกันเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันมัลติมีเดีย

สรุป

Logitech G512 Carbon เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งเชิงกลที่มีคุณสมบัติครบครันและราคาไม่แพง เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดเชิงกลที่มีตัวเลือกสวิตช์ที่หลากหลาย ไฟ RGB ที่ปรับแต่งได้ และวัสดุที่ทนทาน อย่างไรก็ตาม คีย์บอร์ดไม่มีปุ่ม Macro และไม่มีที่พักข้อมือ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับเกมเมอร์บางกลุ่

CHERRY MX 2.0S

ถ้าพูดถึงต้นตำรับสวิตช์คีย์บอร์ด Mechanical อย่าง CHERRY AG จากแคว้นบาวาเรีย ทางบริษัทเองก็มีคีย์บอร์ดผลิตเองอย่างรุ่น CHERRY MX 2.0S ซึ่งดีไซน์เป็นแบบ Full-size หน้าตาเรียบง่ายโดยทางบริษัทยึดแนวทางการออกแบบมาจากสำนักออกแบบ Bauhaus แต่ก็มีไฟ RGB ติดตั้งมาให้ใช้งาน เชื่อมต่อด้วยสาย USB-C to A, USB 2.4GHz Dongle หรือ Bluetooth ก็ได้ มี Anti-Ghosting และ Full N-Key Rollover ป้องกันการกดปุ่มผิดพลาด มีคีย์ลัดเปิดโปรแกรม CHERRY Utilities Software เพื่อตั้งค่าคีย์บอร์ดได้และแนะนำให้ใช้กับระบบปฏิบัติการ Windows เป็นหลัก ส่วนสวิตช์ปัจจุบันนี้โมเดลที่ขายในประเทศไทยจะมีแต่ CHERRY MX Red เท่านั้น แต่ทางบริษัทมีสวิตช์ Silent Red, Brown, Black, Blue ให้เลือก หากผู้ใช้ท่านไหนอยากเป็นเจ้าของคีย์บอร์ด Mechanical คุณภาพระดับเยอรมัน สวิตช์ทนทานน่าใช้ ก็ลองซื้อ CHERRY MX 2.0S ตัวนี้มาใช้งานได้

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscin

สเปคของ CHERRY MX 2.0S:

  • สวิตช์: CHERRY MX สีแดง สีน้ำเงิน สีน้ำตาล หรือสีดำ
  • รูปแบบ: เต็มขนาด (104 คีย์)
  • การเชื่อมต่อ: USB แบบมีสาย
  • ไฟ: RGB ปรับแต่งได้
  • คีย์แคป: PBT
  • ขนาด: 440 x 135 x 34 มม. (17.3 x 5.3 x 1.3 นิ้ว)
  • น้ำหนัก: 1.2 กก. (2.6 ปอนด์)

แป้นพิมพ์มีให้เลือกสองรุ่น: รุ่นที่ไม่มีไฟ RGB และรุ่นที่มีไฟ RGB ปรับแต่งได้ ทั้งสองรุ่นมีสวิตช์ CHERRY MX ให้เลือกหลายแบบ รวมถึงสวิตช์สีแดง สีน้ำเงิน สีน้ำตาล และสวิตช์สีดำ สวิตช์เหล่านี้ให้ความรู้สึกและเสียงที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงสามารถเลือกสวิตช์ที่เหมาะสมกับสไตล์การพิมพ์ของคุณได้

แป้นพิมพ์มีโครงสร้างที่ทนทานและปุ่มกดที่ทนต่อการสึกหรอ ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน คีย์แคป PBT ทนทานกว่าคีย์แคป ABS และช่วยให้แป้นพิมพ์ดูใหม่อยู่เสมอ

แป้นพิมพ์มีไฟ RGB ปรับแต่งได้ซึ่งคุณสามารถปรับแต่งสีและรูปแบบได้ ไฟ RGB ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับแป้นพิมพ์และทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น

แป้นพิมพ์เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยการเชื่อมต่อ USB แบบมีสายให้การเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้

คุณสมบัติหลักของ CHERRY MX 2.0S ได้แก่:

  • สวิตช์ MX คุณภาพสูงจาก CHERRY
  • แสง RGB ปรับแต่งได้
  • การออกแบบที่ทนทาน
  • รองรับ Windows และ macOS

แป้นพิมพ์นี้เหมาะสำหรับการเล่นเกม การทำงาน และการใช้งานทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแป้นพิมพ์กลไกคุณภาพสูงพร้อมคุณสมบัติที่หลากหลาย

ข้อดีของ CHERRY MX 2.0S ได้แก่:

  • สวิตช์เชิงกล CHERRY MX เป็นที่รู้จักในด้านความทนทานและประสิทธิภาพ
  • โครงสร้างที่ทนทานช่วยให้แป้นพิมพ์มีอายุการใช้งานยาวนาน
  • ปุ่มกดที่ทนต่อการสึกหรอช่วยให้แป้นพิมพ์ดูใหม่อยู่เสมอ
  • ไฟ RGB ปรับแต่งได้ให้คุณปรับแต่งรูปลักษณ์ของแป้นพิมพ์ได้
  • คีย์แคป PBT ทนทานกว่าคีย์แคป ABS
  • การเชื่อมต่อ USB แบบมีสายให้การเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้

ข้อเสียของ CHERRY MX 2.0S ได้แก่:

  • แป้นพิมพ์มีราคาแพงกว่าแป้นพิมพ์เชิงกลบางรุ่น
  • แป้นพิมพ์มีขนาดใหญ่และหนักกว่าแป้นพิมพ์บางรุ่น

แป้นพิมพ์ CHERRY MX 2.0S เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแป้นพิมพ์เชิงกลที่มีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ แป้นพิมพ์มีสวิตช์เชิงกลให้เลือกหลากหลายเพื่อให้คุณสามารถปรับแต่งความรู้สึกและเสียงได้ นอกจากนี้ แป้นพิมพ์ยังมีโครงสร้างที่ทนทานและปุ่มกดที่ทนต่อการสึกหรอ ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน

Keychron K2 V2 Wireless Hotswap Mechanical Keyboard

คีย์บอร์ดที่ดีที่สุดสำหรับ Mac และ Windows K2 มีฟังก์ชั่นครบครันในดีไซน์กะทัดรัด มาพร้อม 84 ปุ่มที่จำเป็นและสวิตช์ระดับพรีเมียม เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth ได้อย่างไร้ที่ติ สำหรับ Gamer และผู้ที่ชื่นชอบการใช้ Mechanical Keyboard สามารถใช้สาย USB Type-C ได้ K2 รองรับหลากหลายระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น macOS, Windows, iOS และ Android

สเปค Keychron K2 V2 Wireless Hotswap Mechanical Keyboard

  • ขนาด: 75%
  • สวิตช์: Gateron Mechanical หลายประเภท (Gateron Brown, Gateron Red, Gateron Blue, Gateron Black)
  • การเชื่อมต่อ: ไร้สาย Bluetooth 5.1 หรือแบบมีสาย USB-C
  • ไฟ RGB ปรับแต่งได้
  • ปุ่มฟังก์ชันมัลติมีเดีย
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จไฟได้ (ใช้งานได้นานถึง 72 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง)

รายละเอียดเพิ่มเติม

  • ขนาด: 310 x 129 x 42 มม.
  • น้ำหนัก: 500 กรัม
  • วัสดุ: อะลูมิเนียมอัลลอยด์
  • รองรับระบบปฏิบัติการ: macOS, Windows, Linux

Keychron K2 V2 Wireless Hotswap Mechanical Keyboard มีคุณสมบัติเด่นมากมาย ดังนี้

  • การเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth 5.1 ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อคีย์บอร์ดกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ถึง 3 เครื่องพร้อมกัน เหมาะสำหรับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์หลายเครื่องหรืออุปกรณ์พกพาต่างๆ
  • สวิตช์ Hotswap ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนสวิตช์ได้ตามต้องการ คุณสามารถเลือกสวิตช์ได้ตามความต้องการและสไตล์การพิมพ์ของคุณ
  • รองรับสวิตช์ Gateron Mechanical หลายประเภท คุณสามารถเลือกสวิตช์ Gateron Mechanical ได้ตามต้องการ ตัวเลือกสวิตช์ ได้แก่:
    • Gateron Brown: สวิตช์สัมผัสที่มีเสียงคลิกเบาๆ
    • Gateron Red: สวิตช์ linear ที่เงียบและไหลลื่น
    • Gateron Blue: สวิตช์คลิกที่มีเสียงคลิกที่ดัง
    • Gateron Black: สวิตช์ linear ที่แข็งและตอบสนองได้ดี
  • ไฟ RGB ปรับแต่งได้ คุณสามารถปรับแต่งสีไฟและเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้ตามต้องการ
  • ปุ่มฟังก์ชันมัลติมีเดีย ช่วยให้คุณสามารถควบคุมการเล่นสื่อและอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จไฟได้ แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 72 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ข้อดีของ Keychron K2 V2 Wireless Hotswap Mechanical Keyboard

  • การเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth 5.1 ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อคีย์บอร์ดกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ถึง 3 เครื่องพร้อมกัน
  • สวิตช์ Hotswap ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนสวิตช์ได้ตามต้องการ
  • รองรับสวิตช์ Gateron Mechanical หลายประเภท ให้เลือกได้ตามความต้องการและสไตล์การพิมพ์ของคุณ
  • ไฟ RGB ปรับแต่งได้ ปรับแต่งสีไฟและเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้ตามต้องการ
  • ปุ่มฟังก์ชันมัลติมีเดีย ช่วยให้คุณสามารถควบคุมการเล่นสื่อและอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จไฟได้ ใช้งานได้นานถึง 72 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ข้อเสียของ Keychron K2 V2 Wireless Hotswap Mechanical Keyboard

  • ขนาด 75% อาจเล็กเกินไปสำหรับบางคน
  • สวิตช์ Gateron Mechanical อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
  • ไฟ RGB อาจสว่างเกินไปสำหรับบางคน

คีย์บอร์ดเล่นเกม Keychron K2 v2 Wireless Mechanical Keyboard TH ราคา 3,890 บาท เป็นคีย์บอร์ดพิมพ์งานจากแบรนด์ยอดนิยม Keychron ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่แต่มาในราคาเดิมเพิ่มเติมคือฟีเจอร์การใช้งานใหม่ ๆ และการออกแบบภายนอกที่ได้รับการออกแบบให้เข้ากับการใช้งานตามหลักการยศาสตร์มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความโดดเด่นในฐานะคีย์บอร์ดสายทำงาน ที่คนต้องการเป็นอันดับต้น ๆ ในตอนนี้ ด้วยตัวคีย์ที่มีสัมผัสที่ยอดเยี่ยม และการจัดวาง ไปจนถึง Stabilizing ที่ยอดเยี่ยมทำให้คุณพิมพ์งานได้ต่อเนื่องไม่เมื่อยนิ้ว ทั้งยังเหมาะกับการพกพาสุด ๆ ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Device ได้หลากหลาย OS ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android, PC, Mac ไปจนถึง Linux เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการทำงานสถานที่ หรืออยากเก็บไว้โน้ตไอเดียก็สามารถทำได้สบาย ๆ เพราะคีย์บอร์ดไร้สาย Keychron มีน้ำหนักเพียง 784 กรัมเท่านั้น จัดว่าเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหาคีย์บอร์ดพิมพ์งานนอกจาก Ducky หรือ Leopold

  • ROG Strix Scope NX TKL ตัวนี้เรามีขายนะคะ มีทั้ง3สวิตช์ ดูเต็มๆได้ที่บทความ blue switch
  • MA02 ROG CLAYMORE II BLUE SWITCH มีทั้งRed Blue ดูเต็มๆได้ที่บทความ blue switch
  • Nubwo X30 Terminator Gaming Keyboard: คีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มาพร้อมกับ RGB Backlighting และรองรับสวิตช์ Cherry MX หรือ Gateron Red
  • Royal Kludge RK61 White Wireless Gaming Keyboard: คีย์บอร์ดเกมมิ่งขนาดเล็กที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบมีสายและไร้สาย รองรับสวิตช์ Cherry MX หรือ Gateron Red

คำแนะนำในการเลือกซื้อ Mechanical Keyboard 

หากคุณมองหา Mechanical Keyboard เพื่อเปลี่ยนจากคีย์บอร์ดปกติ คำแนะนำเลือกซื้อคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด สำหรับ Mechanical Keyboard, สวิตช์เป็นจุดสำคัญที่ต้องพิจารณา มี 4 สีหลักได้แก่:

  1. Red Switch Keyboard: มีการกดแบบจังหวะเดียวที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงคลิกที่จะรบกวนคนรอบข้าง มีการตอบสนองที่รวดเร็วและความคล่องแคล่ว เหมาะสำหรับเกมเมอร์หรือผู้ที่ต้องการประสบการณ์พิมพ์ที่สะดวก

  2. Blue Switch Keyboard: มีการกดแบบ 2 จังหวะ มีแรงต้านมากกว่าคีย์บอร์ดอื่น ๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความแน่นหนักขณะพิมพ์ มีเสียงคลิกที่สัมผัสการกดแบบคลาสสิก เหมาะสำหรับคนที่ชอบทั้งการพิมพ์งานและเล่นเกม

  3. Brown Switch Keyboard: การกดแบบ 2 จังหวะ มีแรงต้านน้อยกว่า Blue Switch และเสียงเงียบคล้ายกับ Red Switch ให้สัมผัสการกดที่มั่นคง เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มใช้ Mechanical Keyboard

  4. Black Switch Keyboard: การกดแบบจังหวะเดียวที่คล้ายกับ Red Switch แต่มีการตอบสนองที่รู้สึกหน่วงเล็กน้อย ไม่มีเสียงคลิกดัง เหมาะสำหรับคนที่เน้นเร็วพิมพ์เร็วในการเล่นเกม

โดยการเลือก Mechanical Keyboard ที่เหมาะสม คุณจะได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ตอบสนองตามความต้องการและสนุกสนานที่สุดในทุกรูปแบบของการใช้งาน

คำแนะนำในการเลือกซื้อคีย์บอร์ด Red Switch

การเลือกซื้อคีย์บอร์ด Red Switch นั้นควรพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้

  • การใช้งาน Red switch เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำ หากต้องการคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมเป็นหลัก การเลือกคีย์บอร์ดที่มี Red switch จะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุด
  • งบประมาณ ราคาคีย์บอร์ด Red Switch นั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแบรนด์ วัสดุ และฟีเจอร์ต่าง ๆ หากมีงบประมาณจำกัด สามารถพิจารณาซื้อคีย์บอร์ด Red Switch ของแบรนด์ราคาย่อมเยาได้
  • ขนาดและรูปแบบ คีย์บอร์ด Red Switch มีให้เลือกหลายขนาดและรูปแบบ เช่น Full size, Tenkeyless, 60%, 75% และ Mini การเลือกขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยให้คุณใช้งานคีย์บอร์ดได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น

  • การเชื่อมต่อ คีย์บอร์ด Red Switch มีให้เลือกทั้งแบบมีสายและไร้สาย หากต้องการพกพาคีย์บอร์ดไปใช้งานนอกสถานที่ ควรเลือกคีย์บอร์ดไร้สาย
  • ไฟ RGB คีย์บอร์ด Red Switch หลายรุ่นมีไฟ RGB ให้เลือกใช้งาน หากต้องการคีย์บอร์ดที่มีไฟ RGB สวยงาม ควรพิจารณาเลือกรุ่นที่มีไฟ RGB
  • ฟีเจอร์อื่น ๆ คีย์บอร์ด Red Switch หลายรุ่นมีฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ปุ่ม Macro, ปุ่ม Multimedia เป็นต้น หากต้องการคีย์บอร์ดที่มีฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติม ควรพิจารณาเลือกรุ่นที่มีฟีเจอร์เหล่านั้น

ร้าน Neoshop

Neoshop เป็นสุดยอดร้านค้าที่มีทุกอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป ที่นี่คุณจะพบกับหลายประเภทของสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกรูปแบบและไลฟ์สไตล์ของคุณ เป็นส่วนหนึ่งของ A&A Neo Technology, Neoshop มีชื่อเสียงในการบริการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำอาทิ Acer, Asus, Lenovo, Dell, Logitech, Brother, Epson และ Xbox โดยท่านจะได้รับสินค้าแท้ ปลอดภัย และมีคุณภาพทุกครั้ง ที่ Neoshop เราพร้อมให้บริการคุณอย่างทุกรายละเอียดเพื่อให้คุณได้ทำความเข้าใจและเลือกซื้อสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของคุณ

ร้าน A&A

สำหรับร้าน A&A ก็เป็นร้านส่วนนึงของบริษัท เอ แอนด์ เอ นีโอ เทคโนโลยี พูดง่ายๆคือเป็นร้านในเครือเดียวกันกับ Neoshop ซึ่งก็มีการขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และแล๊ปท็อปเช่นเดียวกัน สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.aaneotech.com สำหรับร้านฝั่งA&A ก็คือเปิดในช่องทางออนไลน์ที่ได้แปะไว้ และ ทางหน้าร้านก็ซื้อได้ที่ Neoshop เลย

คำถามที่พบบ่อย

-          Neoshop ตั้งอยู่ที่ไหน

ร้าน Neoshop ตั้งอยู่ที่ 177 อาคาร A5 ถนน ช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200 หรือง่ายๆคือ ข้างๆtops โชตนามอลล์ และโรงแรมเมอเคียวช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ นั่งเองค่ะ!!

-          ช่องทางonline Neoshop มีอะไรบ้าง

หากใครที่ไม่สะดวกจะมาซื้อที่หน้าร้านเราก็มีช่องทางออนไลน์ให้ทุกคนได้เลือกซื้อกันมากมายหลากหลายแพลตฟอร์มแล้วแต่ความสะดวก

เว็บไซต์ของเรา
- Line
@neoshop
- โทร : 053-227500

-          Neoshop เปิดทำการกี่โมง

ร้าน Neoshop เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 - 18.00 น. ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คอยู่ ขอแนะนำให้มาที่ร้าน Neoshop เลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นศูนย์รับซ่อมของทางแบรนด์ Asus และ Lenovo โดยตรงอีกด้วย

ติดตามซีรีส์ mechanical keyboard ได้ที่นี่

  • ประเภทของคีย์บอร์ด มีอะไรบ้าง
  • คีย์บอร์ด มีสวิตช์อะไรบ้าง แต่ละแบบต่างกันยังไง?
  • คีย์บอร์ด blue switch แนะนำประจำปี 2023 ตัวไหนน่าสนใจ
  • คีย์บอร์ด red switch แนะนำประจำปี2023 รุ่นไหนน่าใช้ (บทความนี้)
  • คีย์บอร์ด brown switch แนะนำประจำปี2023 รุ่นไหนดีนะ

สรุป

โดยสรุปแล้วสำหรับคีย์บอร์ด Red Switch ถือเป็นคีย์บอร์ดแบบ linear ที่มีจุดเด่นคือเสียงเงียบที่สุดในกลุ่ม mechanial keyboard การกดที่ลื่นไหลและการต้านแรงกดที่น้อยที่สุด คีย์บอร์ดด้วยปัจจัยในส่วนนี้คีย์บอร์ดประเภทนี้นอกจากเหมาะกับการเล่นเกมเพลินๆที่ห้องแล้วยังเหมาะกับการพิมพ์งานที่รวดเร็วและใช้งานนอกสถานที่อีกด้วย ดังนั้นหากใครชอบบทความและสินค้าคีย์บอร์ดที่แนะนำไปลองทักถามแอดมินที่เพจได้ก่อนเลยนะคะ สำหรับรุ่นไหนที่มีขายเราจะแปะปุ่มคลิ๊กให้ด้านล่างลูกค้าสำหรับติดต่อแอดมินไปนะคะ สำหรับวันนี้เราก็หวังว่บทความนี้จะให้ความรู้และเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องการคีย์บอร์ด red switch นะคะ