หลังจากที่บทความที่แล้วเราได้ให้ทุกคนมารู้จักกับคีย์บอร์ดเกมมิ่งกันแล้วรวมถึงแนะนำข้อมูลคีย์บอร์ดต่างๆเบื้องต้นจากบทความ "คีย์บอร์ดเกมมิ่ง เชียงใหม่ น่าใช้ ร้านneoshop" กันไปแล้ววันนี้เราจะพาพวกคุรทุกคนมารู้จักกับคีย์บอร์ดให้มากขึ้น และวันนี้เราจะพาพวกคุณมาดูว่าคีย์บอร์ดที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายรุ่น หลากหลายแบบนั้นมันต่างกันยังไง เป็นประเภทอะไรบ้างเพื่อที่ทุกคนเวลาสนใจคีย์บอร์ดต่างๆได้รู้ข้อมูลเพื่อนำไปซื้อนะคะ
ประเภทของคีย์บอร์ด เบื้องต้นที่ทุกคนต้องรู้จัก
มาเริ่มที่ประเภทของคีย์บอร์ดเบื้องต้นที่ทุกคนต้องรู้จักกัน นั่นก็คือคีย์บอร์ดทั่วไปและคีย์บอร์ดเกมมิ่ง คีย์บอร์ดทั่วไปและคีย์บอร์ดเกมมิ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์และแตกต่างกันไปตามความต้องการใช้งาน การเลือกซื้อคีย์บอร์ดที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก หากคุณต้องการคีย์บอร์ดสำหรับงานทั่วไป คีย์บอร์ดทั่วไปก็เพียงพอแล้ว แต่หากคุณต้องการคีย์บอร์ดสำหรับการเล่นเกม คีย์บอร์ดเกมมิ่งก็ตอบโจทย์ได้ดีกว่า
คีย์บอร์ดทั่วไป
คีย์บอร์ดทั่วไป เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่สะท้อนความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ ปุ่มตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ประกอบกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะในการพิมพ์เอกสาร หรือเพียงแค่ป้อนข้อมูลทั่วไป คีย์บอร์ดมักมีปุ่มพิเศษเช่น ปุ่มฟังก์ชั่น ปุ่มทิศทาง และปุ่มควบคุม เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ด้วยปุ่ม 104 ปุ่มทั้งหมด และสวิตช์ยางโดมที่ให้ความสามารถในการกดอย่างนุ่มนวล คีย์บอร์ดทั่วไปเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับงานทุกรูปแบบ ตั้งแต่การเขียนเอกสาร ไปจนถึงการตอบรับอีเมลหรืองานอื่น ๆ ที่ต้องการความกระชับและรวดเร็วในการป้อนข้อมูล
คุณสมบัติทั่วไปของคีย์บอร์ดทั่วไป
- ปุ่ม 104 ปุ่ม
- สวิตช์ยางโดม
- การเชื่อมต่อแบบมีสายหรือไร้สาย
- วัสดุพลาสติก
- ราคาไม่แพง
คีย์บอร์ดเกมมิ่ง
คีย์บอร์ดเกมมิ่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ โดยทั่วไปจะมีปุ่มมากกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปและมีฟังก์ชันต่างๆ ที่ช่วยให้เล่นเกมได้ดีขึ้น เช่น ปุ่มลัด (Shortcut) ปุ่มมาโคร (Macro) และไฟ RGB
คุณสมบัติทั่วไปของคีย์บอร์ดเกมมิ่ง
- ปุ่มมากกว่า 104 ปุ่ม
- สวิตช์กลไก (Mechanical Switch)
- การเชื่อมต่อแบบมีสาย
- วัสดุคุณภาพสูง
- ราคาแพงกว่าคีย์บอร์ดทั่วไป
สำหรับใครที่สนใจในคีย์บอร์ดเกมมิ่ง และยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อตัวไหนหรือรุ่นไหนดี เราก็มีรุ่นที่น่าสนใจมาแนะนำกันในบทความ " คีย์บอร์ดเกมมิ่ง เชียงใหม่ น่าใช้ ร้านneoshop " หรือ https://www.neoshop.co.th/keyboard-gaming-chiangmai/ ซึ่งก็สามารถอ่านได้บนเว็บของเราหรือจิ้มลิ้งค์ที่แปะไว้ให้ได้เลย
คีย์บอร์ดทั่วไป VS คีย์บอร์ดเกมมิ่ง
คุณสมบัติ | คีย์บอร์ดทั่วไป | คีย์บอร์ดเกมมิ่ง |
---|---|---|
ชนิดของปุ่มกด | มักใช้สวิตช์แบบ Membrane หรือ Rubber Dome | มักใช้สวิตช์แบบ Mechanical |
ความทนทาน | มักมีความทนทานน้อยกว่าคีย์บอร์ดเกมมิ่ง | มักมีความแม่นยำสูง |
ความรู้สึกในการกด | นุ่มนวล ยวบยาบ | หนักแน่น ตอบสนองดี |
เสียง | ส่วนใหญ่มักจะเสียงเบา | เสียงส่วนใหญ่จะดังกว่า |
ราคา | มักมีราคาถูกกว่าคีย์บอร์ดเกมมิ่ง | มักมีราคาสูงกว่าคีย์บอร์ดทั่วไป |
การเชื่อมต่อ | USB ไร้สาย | มีทั้ง USB ไร้สาย แต่ส่วนใหญ่มักจะมาแบบ USB |
ปุ่มพิเศษ | ปุ่มตัวเลข ปุ่มฟังก์ชัน | ปุ่มมัลติมีเดีย ปุ่มมาโคร ปุ่มลัดสำหรับเล่นเกม |
ไฟ RGB | มีหรือไม่มี | ส่วนใหญ่จะมีไฟ RGB |
การออกแบบ | มักออกแบบเรียบง่าย | มักออกแบบเน้นความสวยงามและประสิทธิภาพในการเล่นเกม |
วัสดุ | พลาสติก ABS พลาสติก PBT | พลาสติก ABS พลาสติก PBT |
ข้อดีข้อเสียของคีย์บอร์ดทั่วไป
ข้อดีของคีย์บอร์ดทั่วไป
- ราคาย่อมเยา
- ใช้งานได้หลากหลาย
- พกพาสะดวก
ข้อเสียของคีย์บอร์ดทั่วไป
- ความทนทานน้อยกว่า
- ความรู้สึกในการกดนุ่มนวล ยวบยาบ
- เสียงเบา
ข้อดีข้อเสียของคีย์บอร์ดเกมมิ่ง
ข้อดีของคีย์บอร์ดเกมมิ่ง
- ความทนทานมากกว่า
- ความรู้สึกในการกดหนักแน่น ตอบสนองดี
- เสียงดัง
- มีปุ่มพิเศษและฟีเจอร์ที่เหมาะกับการเล่นเกม
ข้อเสียของคีย์บอร์ดเกมมิ่ง
- ราคาสูงกว่า
- พกพาไม่สะดวกเท่าคีย์บอร์ดทั่วไป
สรุป
คีย์บอร์ดทั่วไปเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น พิมพ์เอกสาร ใช้งานโปรแกรมสำนักงาน เล่นเกมทั่วไป ส่วนคีย์บอร์ดเกมมิ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่เน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ เช่น เล่นเกมแนว FPS, MOBA, MMORPG เป็นต้น
หากต้องการคีย์บอร์ดที่มีราคาย่อมเยา ใช้งานได้หลากหลาย พกพาสะดวก ให้เลือกคีย์บอร์ดทั่วไป แต่ถ้าต้องการคีย์บอร์ดที่มีความทนทาน ความรู้สึกในการกดหนักแน่น ตอบสนองดี และมีปุ่มพิเศษและฟีเจอร์ที่เหมาะกับการเล่นเกม ให้เลือกคีย์บอร์ดเกมมิ่ง
ประเภทของคีย์บอร์ด แบ่งตามกลไกปุ่มกด
ประเภทคีย์บอร์ดสามารถแบ่งออกได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้แบ่ง โดยทั่วไปแล้ว ประเภทคีย์บอร์ดสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ตามกลไกการทำงานของปุ่มกด ดังนี้
คีย์บอร์ดปุ่มยาง (Rubber Dome Keyboard) เป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน มีลักษณะเป็นแผ่นยางบางๆ วางอยู่ใต้ปุ่มกด เมื่อกดปุ่มลงไป แผ่นยางจะยุบตัวลงจนสัมผัสกับแผ่นอิเล็กโทรดด้านล่าง ทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังคอมพิวเตอร์
คีย์บอร์ดกลไก (Mechanical Keyboard) เป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเกมเมอร์และผู้ใช้งานที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การพิมพ์ มีลักษณะเป็นปุ่มกดที่ทำจากวัสดุต่างๆ เช่น พลาสติก ABS หรือ PBT ติดตั้งอยู่บนสปริง เมื่อกดปุ่มลงไป ปุ่มกดจะยุบตัวลงจนสปริงหดตัว ทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังคอมพิวเตอร์
คีย์บอร์ดกึ่งกลไก (Semi-Mechanical Keyboard/Hybrid Keyboard) เป็นคีย์บอร์ดที่มีลักษณะผสมผสานระหว่างคีย์บอร์ดปุ่มยางและคีย์บอร์ดกลไก มีลักษณะเป็นปุ่มกดที่ทำจากวัสดุต่างๆ เช่น พลาสติก ABS หรือ PBT ติดตั้งอยู่บนกลไกสปริงแบบง่ายๆ เมื่อกดปุ่มลงไป ปุ่มกดจะยุบตัวลงจนกลไกสปริงหดตัว ทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังคอมพิวเตอร์
นอกจากการแบ่งประเภทตามกลไกการทำงานของปุ่มกดแล้ว คีย์บอร์ดยังสามารถแบ่งประเภทออกได้เป็นอีกหลายวิธี เช่น การแบ่งตามขนาดและรูปแบบการใช้งาน การแบ่งตามวัสดุที่ใช้ทำปุ่มกด การแบ่งตามคุณสมบัติพิเศษต่างๆ เป็นต้น
Rubber Dome Keyboard
สำหรับคีย์บอร์ดที่ทำจากปุ่มยาง เนื่องจากว่าปุ่มยางเป็นเทคโนโลยีที่ผลิตได้ถูกที่สุด ทำให้ราคาได้ราคาที่ถูก ย่อมเยาว์ และทำให้มีขายเยอะแยะมากมายในกลุ่มของตลาดการทำงาน (แม้ Rubber-dome หรือ Membrane จะไม่เหมือนกันทางเทคนิค แต่ในปัจจุบันถูกก็สามารถนำมาใช้แทนกันได้) การทำงานของมันมีลักษณะที่น่าสนใจ โดยมีแผ่นโดมยางครอบใต้ปุ่มเพื่อดันปุ่มให้ลอยขึ้นมาเมื่อเราใช้แรงกดลงไป โดมยางก็ยุบตัวบุ๋มคอนแทคใต้ปุ่ม ทำให้แผงวงจรด้านล่างได้รับการสัมผัส ซึ่งก็จะครบวงจรการพิมพ์แบบชิลๆเลย
สาระน่ารู้! เคยได้ยินกันมั้ยว่าคีย์บอร์ดแผ่นพลาสติกกับคีย์บอร์ดยางนี่เรียกสลับกันบ่อย ๆ ทั้งที่จริง ๆ แล้วเป็นคนละชนิดกันนะ แต่ด้วยความที่คีย์บอร์ดส่วนใหญ่ใช้ปุ่มยางกับแผ่นพลาสติกร่วมกัน ก็เลยถูกเรียกรวม ๆ กันไปซะงั้น บางคนก็เรียก Membrane Keyboard บางคนก็เรียก Rubber Dome Keyboard แล้วแต่สะดวกเลย
Mechanical Keyboard
คีย์บอร์ดแบบกลไก (Mechanical Keyboard) คือ คีย์บอร์ดประเภทหนึ่งที่ใช้หลักการทำงานแบบ "สวิตช์" (Switch) โดยใต้ปุ่มแต่ละปุ่มจะมีสวิตช์อยู่ เมื่อกดปุ่มลงไป สวิตช์จะทำงานและส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังแผงวงจร (PCB) เพื่อส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ดแบบกลไกจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดปุ่มยาง เนื่องจากมีแรงต้านในการกดที่สม่ำเสมอและเสียงที่ชัดเจน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำและประสิทธิภาพสูง เช่น การเล่นเกม การตัดต่อวิดีโอ และงานเขียน ต่างๆแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันไป
ซึ่งคีย์บอร์ด mechanical ส่วนใหญ่จะแบ่งสวิตช์ได้ทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้
สวิตช์แบบคลิก (Clicky Switch) เป็นสวิตช์ที่ให้เสียงคลิกที่ชัดเจน เหมาะสำหรับการพิมพ์และเล่นเกม
สวิตช์แบบแทป (Tactile Switch) เป็นสวิตช์ที่ให้ความรู้สึกของการกดที่ชัดเจน เหมาะสำหรับการพิมพ์และเล่นเกม
สวิตช์แบบไลน์าร์ (Linear Switch) เป็นสวิตช์ที่ให้ความรู้สึกของการกดที่ลื่นไหล เหมาะสำหรับการเล่นเกมและการตัดต่อวิดีโอ
ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปทำความรู้จักกับสวิตช์แบบต่างๆกันแบบลง detail ลึกๆในบทความ " "
ข้อดีของคีย์บอร์ดแบบกลไก ได้แก่
- แรงต้านในการกดที่สม่ำเสมอ
- สัมผัสในการกดที่นุ่มนวล
- เสียงที่ชัดเจน
- ทนทาน
- ปรับแต่งได้
ข้อเสียของคีย์บอร์ดแบบกลไก ได้แก่
- ราคาสูงกว่าคีย์บอร์ดปุ่มยาง
- เสียงขณะกดปุ่มอาจดัง
- ขนาดใหญ่และหนักกว่าคีย์บอร์ดปุ่มยาง
ตัวอย่างคีย์บอร์ดแบบกลไก ได้แก่
- คีย์บอร์ดเกมมิ่ง
- คีย์บอร์ดสำหรับงานตัดต่อวิดีโอ
- คีย์บอร์ดสำหรับงานเขียน
Semi-Mechanical Keyboard
คีย์บอร์ดแบบกึ่งกลไก (Semi-mechanical Keyboard) คือ คีย์บอร์ดประเภทหนึ่งที่ผสมผสานระหว่างคีย์บอร์ดปุ่มยางและคีย์บอร์ดแบบกลไก ลักษณะคล้ายคีย์บอร์ดแบบกลไก แต่มีราคาต่ำกว่า
คีย์บอร์ดกึ่งกลไกทำงานโดยใช้หลักการของโดมยางเช่นเดียวกับคีย์บอร์ดปุ่มยาง แต่แทนที่โดมยางด้านบนด้วยก้านโลหะหรือพลาสติก เมื่อกดปุ่มลงไป ก้านโลหะหรือพลาสติกจะกดโดมยางด้านล่างให้ยุบตัวลงจนสัมผัสกับแผ่นสัมผัส ทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้าขึ้นไปยังแผงวงจรเพื่อส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์
คีย์บอร์ดกึ่งกลไกให้ความรู้สึกที่คล้ายคีย์บอร์ดแบบกลไกมากกว่าคีย์บอร์ดปุ่มยาง เนื่องจากมีแรงต้านในการกดที่สม่ำเสมอและสัมผัสในการกดที่นุ่มนวล แต่ก็มีเสียงที่เบากว่าคีย์บอร์ดแบบกลไก คีย์บอร์ดกึ่งกลไกเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสที่คล้ายคีย์บอร์ดแบบกลไก แต่มีราคาต่ำกว่า
ข้อดีของคีย์บอร์ดกึ่งกลไก ได้แก่
- แรงต้านในการกดที่สม่ำเสมอ
- สัมผัสในการกดที่นุ่มนวลกว่าคีย์บอร์ดปุ่มยาง
- ราคาต่ำกว่าคีย์บอร์ดแบบกลไก
- ใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกรุ่น
ข้อเสียของคีย์บอร์ดกึ่งกลไก ได้แก่
- เสียงขณะกดปุ่มอาจดังกว่าคีย์บอร์ดปุ่มยาง
- แรงต้านในการกดอาจไม่สม่ำเสมอเท่าคีย์บอร์ดแบบกลไก
- สัมผัสในการกดอาจไม่นุ่มนวลเท่าคีย์บอร์ดแบบกลไกที่มีสวิตช์แบบแทปหรือไลน์าร์
คีย์บอร์ดแบ่งตามตามขนาดและรูปแบบการใช้งาน
คีย์บอร์ดขนาดเต็ม (Full-Size Keyboard) เป็นคีย์บอร์ดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีปุ่มทั้งหมด 104 ปุ่ม ประกอบด้วยปุ่มตัวอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์ต่างๆ รวมถึงปุ่มฟังก์ชันต่างๆ เช่น ปุ่ม F1-F12 ปุ่ม ESC ปุ่ม Print Screen เป็นต้น
- คีย์บอร์ดไร้ปุ่มตัวเลข (Ten-Key-Less Keyboard: TKL) เป็นคีย์บอร์ดที่ตัดปุ่มตัวเลขด้านขวาออก ทำให้มีขนาดกะทัดรัดกว่าคีย์บอร์ดขนาดเต็ม เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การพิมพ์งาน การเล่นเกม เป็นต้น
- คีย์บอร์ดไร้ปุ่มตัวเลขและปุ่มฟังก์ชัน (75% Keyboard) เป็นคีย์บอร์ดที่ตัดปุ่มตัวเลขและปุ่มฟังก์ชันด้านขวาออก ทำให้มีขนาดกะทัดรัดกว่าคีย์บอร์ด TKL เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การพิมพ์งาน การเล่นเกม เป็นต้น
คีย์บอร์ดไร้ปุ่มตัวเลข ปุ่มฟังก์ชัน และปุ่มทิศทาง (60% Keyboard) เป็นคีย์บอร์ดที่ตัดปุ่มตัวเลข ปุ่มฟังก์ชัน และปุ่มทิศทางออก ทำให้มีขนาดกะทัดรัดที่สุด เหมาะสำหรับการใช้งานเฉพาะทาง เช่น การเล่นเกม เป็นต้น
แบ่งตามการเชื่อมต่อ
- USB Keyboard หรือคีย์บอร์ดแบบเสียบ USB เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ต USB
- Bluetooth Keyboard หรือคีย์บอร์ดแบบไร้สาย เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน Bluetooth
- Wireless Keyboard หรือคีย์บอร์ดแบบไร้สาย เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านสัญญาณวิทยุ
ประเภทของคีย์บอร์ด แบ่งประเภทตามเลย์เอ้าท์หรือการจัดวางปุ่มกด
ANSI
(American National Standards Institute)
เป็นเลย์เอ้าท์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในอเมริกาและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
ISO
(International Organization for Standardization)
เลย์เอ้าท์รูปแบบนี้สามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากปุ่ม Enter ที่ถูกทำเป็นรูปตัวแอล (L) คีย์บอร์ดแบบ ISO นี้ถูกใช้กันในแถบประเทศยุโรปเป็นส่วนมาก
JIS
(Japanese Industrial Standards)
เราอาจจะไม่คุ้นตากับเลย์เอ้าท์นี้กัน เนื่องจากเป็นรูปแบบคีย์บอร์ดที่ใช้กันอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นครับ
ร้าน Neoshop
Neoshop เป็นสุดยอดร้านค้าที่มีทุกอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป ที่นี่คุณจะพบกับหลายประเภทของสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกรูปแบบและไลฟ์สไตล์ของคุณ เป็นส่วนหนึ่งของ A&A Neo Technology, Neoshop มีชื่อเสียงในการบริการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำอาทิ Acer, Asus, Lenovo, Dell, Logitech, Brother, Epson และ Xbox โดยท่านจะได้รับสินค้าแท้ ปลอดภัย และมีคุณภาพทุกครั้ง ที่ Neoshop เราพร้อมให้บริการคุณอย่างทุกรายละเอียดเพื่อให้คุณได้ทำความเข้าใจและเลือกซื้อสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
ร้าน A&A
สำหรับร้าน A&A ก็เป็นร้านส่วนนึงของบริษัท เอ แอนด์ เอ นีโอ เทคโนโลยี พูดง่ายๆคือเป็นร้านในเครือเดียวกันกับ Neoshop ซึ่งก็มีการขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และแล๊ปท็อปเช่นเดียวกัน สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.aaneotech.com สำหรับร้านฝั่งA&A ก็คือเปิดในช่องทางออนไลน์ที่ได้แปะไว้ และ ทางหน้าร้านก็ซื้อได้ที่ Neoshop เลย
คำถามที่พบบ่อย
- Neoshop ตั้งอยู่ที่ไหน
ร้าน Neoshop ตั้งอยู่ที่ 177 อาคาร A5 ถนน ช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200 หรือง่ายๆคือ ข้างๆtops โชตนามอลล์ และโรงแรมเมอเคียวช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ นั่งเองค่ะ!!
- ช่องทางonline Neoshop มีอะไรบ้าง
- Neoshop เปิดทำการกี่โมง
ร้าน Neoshop เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 - 18.00 น. ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คอยู่ ขอแนะนำให้มาที่ร้าน Neoshop เลยครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นศูนย์รับซ่อมของทางแบรนด์ Asus และ Lenovo โดยตรงอีกด้วย
สรุป
สำหรับวันนี้ก็ได้รู้จักกับประเภทของคีย์บอร์ด ต่างๆเบื้องต้นกันแล้วใช่มั้ยคะ บอกได้เลยว่าประเภทของคีย์บอร์ดนั้น สามารถแบ่งได้หลากหลายแบบมากๆ เนื่องจากว่าคีย์บอร์ดแต่ละชนิดมีการใช้งานและส่วนประกอบภายในที่ต่างกันทำให้มีการใช้งานที่ต่างกัน ซึ่งเราหวังว่าหลังจากที่ทุกคนได้อ่านบทความนี้แล้วจะได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคีย์บอร์ดไม่มากก็น้อยนะคะ และหวังว่าความรู้ในส่วนนี้จะทำให้ทุกคนสามารถซื้อ แยกแยะ ประเภทคีย์บอร์ดตามความต้องการของตัวเองได้ สุดท้ายนี้สำหรับใครที่สนใจคีย์บอร์ดทางร้าน Neoshop ของเราก็มีให้เลือกมากมาย **รุ่นไหนไม่มีบนเว็บทักถามที่แอดมินก่อนได้นะคะ