เราอยู่ในยุคเตรียมตัวมุ่งสู่ Metaverse ที่ทุกคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวเทคโนโลยี เรียลลิตี้ กันมาบ้างแล้ว..ในที่สุดเทคโนโลยี VR / AR ก็ได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็น Mixed Reality (MR) นับวันก็ยิ่งเข้ามามอบความ ‘แปลกใหม่’ ผ่านสื่อต่าง ๆ ให้เราเห็นขึ้นทุกที
ซึ่ง ‘มิติใหม่’ ที่เรากำลังจะรู้จักไปพร้อม ๆ กัน จะเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ทุกคน ‘ควบคุม’ สิ่งต่าง ๆ และเติมเต็มช่องโหว่ใน ‘โลกไร้ขีดจำกัด’ ได้มากขึ้น (ถ้ายังนึกไม่ออก เราขอแนะนำให้คุณไม่พลาดตัวอย่างสุดตื่นเต้นจากภาพยนตร์ Ready Player One) และหากคุณต้องการนำไปต่อยอด ปรับใช้สำหรับธุรกิจ วันนี้ The Growth Master มาสรุปให้คุณแล้วในบทความนี้
เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) คืออะไร?
มาทำความรู้จักกัน!
ขอบคุณภาพจาก ETRI
Virtual Reality (VR) คือการจำลอง 'สภาพแวดล้อม' ให้เหมือนอยู่ในโลกอื่นผ่านการรับรู้ทางการเห็น การได้ยิน และการสัมผัสผ่าน VR Headset ร่วมกับคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี 360 องศา โดยจะแสดงผลกราฟิกแบบมีมิติ ระยะใกล้ไกล ให้เราสามารถเห็นทุกอย่างได้รอบด้าน เสทือนจริงกันเลยทีเดียว
ซึ่งสำหรับเทคโนโลยี VR สร้างมาเพื่อการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงผ่านเกมเพลย์และเป็นแหล่งสนับสนุนธุรกิจที่หลากหลาย เช่น ธุรกิจยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และซอฟต์แวร์ รวมถึงการจำลองสถานที่จริงในปัจจุบันอีกด้วยนะ
และปัจจุบันนี้โซเชียลมีเดียก็ใช้เทคโนโลยี VR ใน Social VR เช่น Horizon Worlds ถือเป็นโซเชียลมีเดีย VR ของ Facebook ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2021 โดยเน้นไปที่การสร้างโลกเสมือนจริงที่ทุกคนสามารถโต้ตอบกันในรูปแบบเสมือนจริง หรือ Rec Room ที่เน้นไปที่เกมและกิจกรรมต่างๆ โดยใช้ VR เข้ามาร่วมด้วย โดยผู้ใช้ทุกคนสามารถเล่นเกม แข่งขันกัน และสร้างห้องของตัวเองได้
Augmented Reality (AR) คือ การนำข้อมูลเข้าสู่โลกความจริงในรูปแบบ 3 มิติ ผ่านวิดีโอหรือช่องทางการโต้ตอบ บนสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจริง Augmented Reality (AR) คือ การนำข้อมูลเข้าสู่โลกความจริงในรูปแบบ 3 มิติ ผ่านวิดีโอหรือช่องทางการโต้ตอบ บนสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจริง เช่น เกม Pokémon Go ที่เราคุ้นเคยกันและเป็นกระแสอยู่ช่วงนึง โดยที่ผู้เล่นสามารถหาและจับโปเกมอนในสถานที่ต่างๆ ในโลกจริงๆได้ โดยใช้ AR บนแอพพลิเคชั่นเกมนี้เพื่อดูโปเกมอนที่ซ้อนทับอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง
เทคโนโลยี AR ในตอนนี้มีกจะถูกใช้ในการพัฒนาแบรนด์ให้ทันสมัยและมีความสะดวกมากขึ้น เช่น IKEA ที่เพิ่มฟีเจอร์ให้ลูกค้าลองตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ 3D บนแอปพลิเคชันก่อนเข้าร้าน
และสิ่งที่น่าตื่นเต้นคืออนาคตใกล้ๆนี้จะมีอุปกรณ์ AR Glass (realityOS) จาก Apple ซึ่งเป็นแว่นตาที่สวมใส่ในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟน คาดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยี AR ได้ง่ายขึ้นและราคาเบาลงอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก สารรังสิตonline
ความแตกต่างระหว่าง Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR)
ขอบคุณภาพจาก Techworldmania
ความแตกต่างระหว่าง VR และ AR คือการใช้เทคโนโลยี VR เพื่อย้ายเราไปสู่โลกเสมือนจริงผ่านสายตาและอารมณ์สัมผัสด้วยแว่น VR Headset ในขณะที่เทคโนโลยี AR ใช้แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแว่น AR เพื่อซ้อนภาพ 3 มิติลงในโลกความเป็นจริง
จุดแตกต่างระหว่างทั้งสองคือ VR ช่วยเชื่อมต่อกิจกรรมและการพบปะในโลกออนไลน์ โดยไม่ต้องเดินทางไปสถานที่จริง เช่นแอป Dating Apps ที่ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันอันตรายจากมิจฉาชีพ
AR เป็นการใช้แอปพลิเคชันเพื่อรับข้อมูลความบันเทิงในเวลาจริง ผ่านสิ่งของหรือสถานที่ที่เราอยู่ และเราสามารถ 'เดินทางไปบนโลกความเป็นจริง' เช่นแอปเกม Pokemon GO ที่มีความฮิตในปี 2016
เทคโนโลยี VR และ AR มีดีและเสียเป็นส่วนตัว แต่ด้วยการพัฒนา Metaverse ที่ต่อเนื่อง จึ่งมีเทคโนโลยี Mixed Reality(MR) เกิดขึ้นให้เราได้สัมผัส ดังนั้นเรื่องของวิถีชีวิตในอนาคตจะเปลี่ยนไปก็เป็นได้
VR / AR พัฒนาสู่เทคโนโลยี Mixed Reality (MR) ได้อย่างไร?
Mixed Reality (MR) คือการสร้างโลกคู่ขนานผสมเข้ากับโลกความเป็นจริง โดยการนำเอาข้อดีของเทคโนโลยี VR และ AR มาพัฒนาร่วมกัน ซึ่งเป็นการรักษาการมองเห็นและสัมผัสโลกความเป็นจริงในขณะที่ใช้เทคโนโลยี HoloLens (แว่นโปร่งใส) ที่มุ่งเพิ่มความสะดวกสบาย
เทคโนโลยี MR ประเดิมเกิดขึ้นหลังจากการใช้งานแว่น VR Headset และพบว่าในพื้นที่ Indoor ที่เคลื่อนไหวอาจไม่สะดวกและไม่สามารถมองเห็นโลกความเป็นจริงได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ใช้
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว การพัฒนาเทคโนโลยี MR จึงเกิดขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถใช้งานทั้ง Indoor และ Outdoor ผ่านแว่น HoloLens ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายและเสริมความเสรีในการใช้งานโดยไม่ต้องถืออุปกรณ์หนัก
เทคโนโลยีแบบเรียลลิตี้ทั้ง VR, AR, และ MR เป็นส่วนสำคัญในโลก Metaverse ซึ่งผู้ใช้งานจะได้พบกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับธุรกิจและองค์กร ในหัวข้อถัดไปเราจะสำรวจหัวข้อนี้อย่างลึกซึ้งกว่า
เทคโนโลยี VR / AR / MR ร่วมสนับสนุนโลก Metaverse อย่างไร?
การรวมเทคโนโลยีแบบไร้รอยต่อเข้าด้วยกันเป็น "การสร้างผู้นำด้านเทคโนโลยี" ในธุรกิจระดับโลก เช่น Meta Microsoft Sony เป็นต้น ที่ผลักดันพัฒนาอุปกรณ์ Metaverse
Meta (Facebook) สร้างโลกเสมือนจริงผ่าน Meta Quest VR ที่มีความสมจริงในการดูหนังและเล่นเกม ด้วยการควบคุมแบบเสียงและภาพที่เหมือนจริงด้วยการ ดูหนัง เล่นเกมด้วยเสียง การควบคุม และภาพที่เหมือนจริง จับต้องได้กว่าการแสดงผลบน PC
Meta Quest VR ใช้งานง่าย ไม่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์เพิ่มเติม ด้วยชิป SnapDragon XR2 ที่ถูกออกแบบมาสำหรับแว่น VR และเชื่อมต่อผ่าน 'แอคเคาท์ Facebook' ได้
***ยังไม่ได้แก้คำพูด
ซึ่งความพิเศษคือใน Oculus รุ่นที่สองนี้ Meta พัฒนามาแก้ไขข้อด้อยของ VR สำหรับใครที่กังวลว่าจะเกิดอันตรายระหว่างเล่น รุ่นนี้จะมีระบบ Guardian ที่กำหนดเส้น ป้องกันเราออกจากพื้นที่ที่กำหนดไว้ได้เช่นกัน เรียกว่าใครมีงบซื้อได้ในระดับแว่น VR ก็ปลอดภัยหายห่วง
และหากอยากทราบว่าเทคโนโลยี MR ที่จับต้องได้เป็นอย่างไร ผ่านธุรกิจแบบไหน? มาดูกัน
Microsoft ผู้ผลิต HoloLens2 (โฮโลแกรม 3 มิติ)
ในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีแว่นอัจฉริยะจากแบรนด์อื่น ๆ มีความสามารถในการแสดงผลแบบ 2 มิติ น้อยลง ทาง Microsoft ก็พัฒนา HoloLens รุ่น 2 เป็นอุปกรณ์ MR ที่ใช้เทคโนโลยี Hologram 3 มิติ และเป็นเจ้าที่เหนือกว่า นำไปใช้ในธุรกิจและองค์กรใหญ่ ๆ ให้บริการลูกค้าของพวกเขา
การใช้เทคโนโลยี Azure Cloud ใน HoloLens รุ่น 2 ที่พัฒนาขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานระดับองค์กร ระบบที่มีความแม่นยำสูงถึงสองเท่าในการตรวจจับสภาพแวดล้อมและวัตถุ ช่วยสร้างประสบการณ์การจำลองโลก Metaverse ที่ตอบสนองความต้องการความแม่นยำสูงของธุรกิจ เช่น ธุรกิจยานยนต์ และอื่น ๆ
ขอบคุณภาพจาก Teachcrunch
Ford เลือกใช้ HoloLens รุ่น 2 จาก Microsoft เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจในงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ โดยให้ผู้เข้าชมสวมใส่แว่นจำลองเพื่อเข้าสู่โลก Metaverse และควบคุมรถยนต์เสมือนจริง ปรับฟังก์ชันภายในรถได้จริง นี่เป็นกลยุทธ์ที่สร้างประสบการณ์เทคโนโลยีให้ผู้ใช้งานรับชมและสัมผัสสินค้าระดับหรู ไปอย่างลงตัว
Sony ผู้ผลิต Playstation VR / VR2
Sony เป็นเจ้าพ่อวงการเกมที่ร่วมใช้เทคโนโลยี VR ใน Playstation VR เพื่อพัฒนาเกม 3D VR mode ให้เข้ากับโลก Metaverse ผ่านทิวทัศน์ 360 องศา
ผู้เล่นสามารถเข้าสู่โหมด Metaverse จาก Save file เดิม และสลับเล่นระหว่างโหมด Normal และ Metaverse ได้โดยง่าย โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ เป็นจุดเด่นที่เพิ่มความอิสระให้กับผู้ใช้
ขอบคุณภาพจาก Fossbytes
ในปีที่ผ่านมาได้มีข่าวลือว่า Sony เตรียมเปิดตัว VR รุ่น 2 ที่มาพร้อมการออกแบบที่แรงบันดาลใจมาจาก PlayStation 5
องค์กรชั้นนำทั้ง Google, Facebook และ Microsoft ร่วมพัฒนาอุปกรณ์ในโลก Metaverse เพื่อเพิ่มภาพการใช้งานจริงขึ้นในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทั่วโลก
สรุป 5 ไอเดียเทคโนโลยี VR / AR สำหรับธุรกิจ
Metaverse เติบโตมากขึ้นและมีผลกระทบในการทำงาน การศึกษา และชีวิตประจำวัน เทคโนโลยี VR / AR นำนวัตกรรมมาให้เห็นในทุกปี ซึ่งในปี 2022 ถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสในการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ มีไอเดียที่น่าสนใจ 5 อันดับดังนี้
1. สร้าง Customer Loyalty ด้วยเทคโนโลยี VR / AR
แบรนด์ส่วนใหญ่เผชิญท้าทายในการสร้างความสัมพันธ์ที่เน้นความประทับใจและความเชื่อมั่นให้ลุกค้า โดยใช้เทคโนโลยี VR / AR เพื่อแสดงคุณภาพสินค้าและสร้าง Use Case ที่น่าเชื่อถือ เช่น การลองเสื้อผ้าผ่านกล้องหรือติดตามสินค้าใหม่แบบเรียลไทม์ ที่ได้รับความนิยมในการช็อปปิ้งออนไลน์
ขอบคุณภาพจาก millermedia
ด้วยความที่ตัวอุปกรณ์ VR เปิดโอกาสให้แบรนด์ถ่ายทอดเรื่องราวและแรงบันดาลใจ เพิ่มความจดจำและมีส่วนร่วมมากขึ้น ดังนั้นการนำเทคโนโลยี VR มาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ / สินค้า ด้วยกลยุทธ์แบบ Growth ก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแบรนด์และสร้างความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
2. สื่อสารธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยี VR / AR Conferences
เทคโนโลยี VR เปิดโอกาสให้สื่อสารทุกที่ ปรับปรุง Workflow ในการทำงานและสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจผ่านอุปกรณ์ VR การใช้ VR ในการประชุมและการทำงานเป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้น มีแพลตฟอร์ม เช่น Spatial ที่ให้ผู้ร่วมทีมสวมใส่แว่น VR และใช้ระบบ 3D avatars สร้างความสัมพันธ์แบบล้ำสมัย ที่สอดคล้องกับแนวคิด Metaverse ที่กำลังเป็นที่นิยม
3. สร้างธุรกิจซอฟต์แวร์ ‘มอบความบันเทิง’ ด้วยเทคโนโลยี VR / AR
ถ้าคุณสนใจเข้าสู่ธุรกิจการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านความบันเทิง เทคโนโลยี VR / AR เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างแน่นอน เพราะสถิติการลงทุนใน VR / AR Application และ VR Gaming เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าจากปี 2021
ความน่าสนใจของเทคโนโลยี VR / AR อย่างนี้ ก็มอบโอกาสให้นักพัฒนาเกมและแอปพลิเคชัน ได้ฝึกทักษะและความชำนาญ และสร้างความสร้างสรรค์ในการพัฒนา 'การออกแบบ' ที่สมจริงมากขึ้น ด้วยการจำลองโมเดลเสมือนจริงในมิติ 3D
ขอบคุณภาพจาก Meduim
เทคโนโลยี VR / AR เพิ่มประสบการณ์ให้ผู้ใช้แอปพลิเคชันและเกมในยุคดิจิทัลได้มากยิ่งขึ้น และทำให้ความเป็น Metaverse เข้าใกล้ขึ้น ไม่แปลกเลยที่แบรนด์และธุรกิจต้องเรียกเงินโฆษณาใน TikTok ซึ่งเป็น Paid Loop หรือ Purchase Loop ทันที เพื่อสนับสนุนกระบวนการนี้
4. สร้างธุรกิจ ‘อสังหาฯ’ ให้เติบโตด้วยเทคโนโลยี VR / AR
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นำเทคโนโลยี VR และ AR มาใช้เพื่อแสดงความต้องการในการครอบครองทรัพย์สินของลูกค้า ด้วยการแสดง Mockup ที่ช่วยให้เห็นดีไซน์และการออกแบบอสังหาฯ ที่หลากหลายมุม
เทคโนโลยี VR ช่วยให้ลูกค้าสามารถเดินชมและตรวจสอบอสังหาฯ ได้เหมือนเป็นศูนย์กลางผ่านจำลอง 3D Virtual Objects แบบ 360 องศา โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงที่จริง ช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น
เทคโนโลยี AR ยังช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าในการค้นหาบ้านพักหรืออสังหาฯ ที่ว่างสำหรับเช่าหรือซื้อ ผ่านการใช้กล้องสมาร์ทโฟนแสกนในแอปพลิเคชัน ทำให้เทคโนโลยี VR / AR เข้ามาเสริมความเป็นมากขึ้นในวงการอสังหาริมทรัพย์ (และอาจมีการประมูล Virtual Land ในอนาคต)
ขอบคุณภาพจาก Yeppar
5. สนับสนุนธุรกิจผ่าน Festival Economy ด้วยเทคโนโลยี VR
เทคโนโลยีใหม่เข้าถึงคนง่ายขึ้นผ่านสมาร์ทโฟนด้วยการใช้ 5G ในปัจจุบัน เทคโนโลยี VR ก็เป็นตัวสนับสนุนFestival Economy ในไทยแล้วเช่นกัน
ใน เทศกาลสักการะ 8 เทพใช้ VR เพื่อนำส่งประสบการณ์ศรัทธาออนไลน์ สนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหารบริเวณราชประสงค์ที่ถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการธุรกิจได้ดีเลยทีเดียว
AIS ใช้เทคโนโลยี VR เปิด Virtual Showcase สร้าง Customer Experience ให้ลูกค้าและผู้ประกอบการเข้าชมคอนเทนต์แบบสวยงาม
ขอบคุณภาพจาก TelecomLover
หากเราพิจารณาถึงการลงทุน สถิติจากทั่วโลกในปี 2022 พบว่าอัตราการเติบโตสูงสุดเกิดใน VR gaming และ VR video ซึ่งมียอดลงทุนสูงถึง 17.6 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2024 ทำให้เทคโนโลยี VR / AR ดูน่าสนใจมากและมีศักยภาพในการลงทุนมากขึ้น
สรุปทั้งหมด
การที่มีAR VR และเทคโนโลยีMR ถือเป็นก้าวสำคัญและโอกาสครั้งถัดไป สำหรับนักธุรกิจและผู้ที่มองหาไอเดียจากเทคโนโลยี Metaverse จะได้รับโอกาสและก้าวข้ามไปสู่อนาคตใหม่ ๆ เรามีความหวังว่าการกลั่นกรองคุณค่าในด้าน Use Case ของเทคโนโลยี VR / AR และ MR ในบทความนี้จะเป็นประโยชน์ยาวสำหรับผู้อ่านและผู้ที่ต้องการใช้งานในอนาคตอีกด้วย
ที่มา : thegrowthmaster